From this page you can:
Home |
Search results
52 result(s) search for keyword(s) 'การรับรู้. อาจารย์พยาบาล. นักศึกษาพยาบาล. กิจการการสอน. กิจกรรมการเรียน.'
Add the result to your basket Refine your search Apply to external sources Make a suggestion
กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาลเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจ ของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกภาคปฏิบัติ ตามการรับรู้ของนักศึกษาพยาบาลในวิทยาลัยพยาบาล สถาบันพระบรมราชชน / ชุลีพร ปิยสุทธิ์, / กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - 2539
Title : กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาลเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจ ของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกภาคปฏิบัติ ตามการรับรู้ของนักศึกษาพยาบาลในวิทยาลัยพยาบาล สถาบันพระบรมราชชน Original title : Teaching activities of nursing instructors to empower nursing students in clinical practice as perceived by nursing students in Nursing Colleges, Praboromarajchanok Institute Material Type: printed text Authors: ชุลีพร ปิยสุทธิ์, (2508-), Author Publisher: กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Publication Date: 2539 Pagination: ก-ฏ, 136 แผ่น Layout: ตารางประกอบ, แผนภูมิ Size: 30 ซม. ISBN (or other code): 978-974-636-394-8 Price: บริจาค. General note: วิทยานิพนธ์ (พย. ม (การพยาบาลศึกษา)). -- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539 Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การรับรู้
[LCSH]การเสริมสร้างพลังอำนาจ
[LCSH]กิจกรรมการเรียน
[LCSH]นักศึกษาพยาบาล -- การศึกษาและการสอน
[LCSH]พยาบาล -- การศึกษาและการสอน
[LCSH]พยาบาล -- กิจกรรมการสอน
[LCSH]อาจารย์พยาบาลKeywords: การรับรู้.
อาจารย์พยาบาล.
นักศึกษาพยาบาล.
กิจการการสอน.
กิจกรรมการเรียน.Class number: WY18 ช247 2539 Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษากิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกภาคปฎิบัติ ตามการรับรู้ของนักศึกษาพยาบาลในวิทยาลัยพยาบาล สถาบันพระบรมราชชนกและเปรียบเทียบการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์ เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาจำแนกตามระดับชั้นปีคะแนนเฉลี่ยสะสม และแบบการเรียนของนักศึกษา กลุ่มตัวอย่าง คือนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 และ 4 จำนวน 618 คน ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบบสอบถามเกี่ยวกับ แบบการเรียนของนักศึกษา และกิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษา ในการฝึกปฏิบัติที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงและความเที่ยงแล้ว
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ค่าเฉลี่ยของคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาในการฝึกภาคปฏิบัิติ ด้านการเสริมสร้างความมีอิสระแห่งวิชาชีพอยู่ในระดับสูง ส่วนค่าเฉลี่ยคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง
2. ค่าเฉลี่ยของคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมนร้างพลังอำนาจของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 สูงกว่าของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 และแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิิติที่ระดับ .05
3. ค่าเฉลี่ยของคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของพยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาพยาบาลที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่แตกต่างกัน
4. ค่าเฉลี่ยของคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาพยาบาลที่มีแบบการเรียนแตกต่างกัน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 โดยที่นักศึกษาที่มีแบบการเรียนแบบอิสระ และแบบมีส่วนร่วม จะรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์ เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาได้สูงกว่านักศึกษาที่มีแบบการเรียนแบบหลีกเลี่ยง และพึ่งพา นักศึกษาที่มีแบบการเรียนแบบร่วมมือ จะรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาได้สูงกว่าที่มีแบบการเรียนแบบหลีกเลี่ยงRecord link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23308 กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาลเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจ ของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกภาคปฏิบัติ ตามการรับรู้ของนักศึกษาพยาบาลในวิทยาลัยพยาบาล สถาบันพระบรมราชชน = Teaching activities of nursing instructors to empower nursing students in clinical practice as perceived by nursing students in Nursing Colleges, Praboromarajchanok Institute [printed text] / ชุลีพร ปิยสุทธิ์, (2508-), Author . - กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539 . - ก-ฏ, 136 แผ่น : ตารางประกอบ, แผนภูมิ ; 30 ซม.
ISSN : 978-974-636-394-8 : บริจาค.
วิทยานิพนธ์ (พย. ม (การพยาบาลศึกษา)). -- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การรับรู้
[LCSH]การเสริมสร้างพลังอำนาจ
[LCSH]กิจกรรมการเรียน
[LCSH]นักศึกษาพยาบาล -- การศึกษาและการสอน
[LCSH]พยาบาล -- การศึกษาและการสอน
[LCSH]พยาบาล -- กิจกรรมการสอน
[LCSH]อาจารย์พยาบาลKeywords: การรับรู้.
อาจารย์พยาบาล.
นักศึกษาพยาบาล.
กิจการการสอน.
กิจกรรมการเรียน.Class number: WY18 ช247 2539 Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษากิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกภาคปฎิบัติ ตามการรับรู้ของนักศึกษาพยาบาลในวิทยาลัยพยาบาล สถาบันพระบรมราชชนกและเปรียบเทียบการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์ เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาจำแนกตามระดับชั้นปีคะแนนเฉลี่ยสะสม และแบบการเรียนของนักศึกษา กลุ่มตัวอย่าง คือนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 และ 4 จำนวน 618 คน ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบบสอบถามเกี่ยวกับ แบบการเรียนของนักศึกษา และกิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษา ในการฝึกปฏิบัติที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงและความเที่ยงแล้ว
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ค่าเฉลี่ยของคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาในการฝึกภาคปฏิบัิติ ด้านการเสริมสร้างความมีอิสระแห่งวิชาชีพอยู่ในระดับสูง ส่วนค่าเฉลี่ยคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง
2. ค่าเฉลี่ยของคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมนร้างพลังอำนาจของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 สูงกว่าของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 และแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิิติที่ระดับ .05
3. ค่าเฉลี่ยของคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของพยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาพยาบาลที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่แตกต่างกัน
4. ค่าเฉลี่ยของคะแนนการรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาพยาบาลที่มีแบบการเรียนแตกต่างกัน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 โดยที่นักศึกษาที่มีแบบการเรียนแบบอิสระ และแบบมีส่วนร่วม จะรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์ เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาได้สูงกว่านักศึกษาที่มีแบบการเรียนแบบหลีกเลี่ยง และพึ่งพา นักศึกษาที่มีแบบการเรียนแบบร่วมมือ จะรับรู้กิจกรรมการสอนของอาจารย์พยาบาล เพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของนักศึกษาได้สูงกว่าที่มีแบบการเรียนแบบหลีกเลี่ยงRecord link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23308 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000384675 THE WY18 ช247 2539 Book Main Library General Shelf Available SIU IS-T. การพัฒนาสื่อเพื่อศึกษาด้วยการใช้ Holograms สำหรับนักศึกษาพยาบาล / สันติราชย์ เลิศมณี / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2018
Collection Title: SIU IS-T Title : การพัฒนาสื่อเพื่อศึกษาด้วยการใช้ Holograms สำหรับนักศึกษาพยาบาล Original title : The Development of Holograms as Educational Media for Nursing Students Material Type: printed text Authors: สันติราชย์ เลิศมณี, Author ; เฟื่องฟ้า อัมพรสถิร, Associated Name ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2018 Pagination: viii, 74 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 บาท General note: SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2018-01
Independent Study [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2018.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]สื่อการสอน
[LCSH]โฮโลแกรมKeywords: Holograms,
สื่อการสอน,
นักศึกษาพยาบาลAbstract: วัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อการสอนด้วยการใช้ Holograms มีกระบวนการสร้างดังนี้
1) ผู้วิจัยศึกษาวิธีการฉีดยาจากหนังสือเรียน และศึกษาโปรแกรม 3 มิติ เพื่อสร้างภาพ Holograms 2) ผู้วิจัยสร้างอุปกรณ์ Holograms จากวัสดุต่าง ๆ และนำมาทดลอง และบันทึกผล 3) ผู้วิจัยสร้างแบบสอบถามใช้เป็นการวิจัยเพื่อทดสอบความพึงพอใจจากการใช้ Holograms วิธีการฉีดยา โดยเก็บข้อมูลจากนักศึกษาพยาบาล 43 คน มาวิเคราะห์ผล
การใช้เครื่องมือทดสอบกับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรพยาบาลบัณฑิต มหาวิทยาลัยวิทยาชินวัตร โดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่ายกับนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 จำนวน 27 คน และชั้นปีที่ 3 จำนวน 16 คน รวมจำนวน 43 คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้ค่าสถิติเชิงพรรณนา
ผลการประเมินความพึงพอใจสื่อการสอนจากกลุ่มเป้าหมายจำนวน 43 คน พบว่า ระดับความพึงพอใจด้านเนื้อหาสาระ ด้านคุณค่า และโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด แต่ระดับความพึงพอใจด้านอุปกรณ์ อยู่ในระดับมาก
จากความคิดเห็นของนักศึกษาพยาบาล พบว่า จุดเด่นมีความแปลกใหม่ ทันสมัย และน่าสนใจ การนำเสนอภาพสามารถมองเห็นภาพร่างกายได้ชัดเจนและเรียนรู้วิธีการฉีดยาที่กล้ามเนื้อมีมุมองศาแตกต่างกัน มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเกิดประโยชน์กับการเรียนการสอนสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ใช้งานง่าย และสามารถนำไปใช้งานได้จริง และพบว่ามีข้อบกพร่อง ได้แก่ ภาพมีขนาดเล็กและไม่ชัดเจน ประกอบกับเสียงบรรยายไม่ชัดเจนและขาดความนุ่มนวลของเสียง มีรายละเอียดและคำบรรยายในการสอนของเนื้อหาน้อยเกินไป การแสดงเนื้อหามีระยะเวลาสั้น ตลอดจนอุปกรณ์มีขนาดเล็กทำให้ขาดความน่าสนใจCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27854 SIU IS-T. การพัฒนาสื่อเพื่อศึกษาด้วยการใช้ Holograms สำหรับนักศึกษาพยาบาล = The Development of Holograms as Educational Media for Nursing Students [printed text] / สันติราชย์ เลิศมณี, Author ; เฟื่องฟ้า อัมพรสถิร, Associated Name ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2018 . - viii, 74 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00 บาท
SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2018-01
Independent Study [MAMIC.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2018.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]สื่อการสอน
[LCSH]โฮโลแกรมKeywords: Holograms,
สื่อการสอน,
นักศึกษาพยาบาลAbstract: วัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อการสอนด้วยการใช้ Holograms มีกระบวนการสร้างดังนี้
1) ผู้วิจัยศึกษาวิธีการฉีดยาจากหนังสือเรียน และศึกษาโปรแกรม 3 มิติ เพื่อสร้างภาพ Holograms 2) ผู้วิจัยสร้างอุปกรณ์ Holograms จากวัสดุต่าง ๆ และนำมาทดลอง และบันทึกผล 3) ผู้วิจัยสร้างแบบสอบถามใช้เป็นการวิจัยเพื่อทดสอบความพึงพอใจจากการใช้ Holograms วิธีการฉีดยา โดยเก็บข้อมูลจากนักศึกษาพยาบาล 43 คน มาวิเคราะห์ผล
การใช้เครื่องมือทดสอบกับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรพยาบาลบัณฑิต มหาวิทยาลัยวิทยาชินวัตร โดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่ายกับนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 จำนวน 27 คน และชั้นปีที่ 3 จำนวน 16 คน รวมจำนวน 43 คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้ค่าสถิติเชิงพรรณนา
ผลการประเมินความพึงพอใจสื่อการสอนจากกลุ่มเป้าหมายจำนวน 43 คน พบว่า ระดับความพึงพอใจด้านเนื้อหาสาระ ด้านคุณค่า และโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด แต่ระดับความพึงพอใจด้านอุปกรณ์ อยู่ในระดับมาก
จากความคิดเห็นของนักศึกษาพยาบาล พบว่า จุดเด่นมีความแปลกใหม่ ทันสมัย และน่าสนใจ การนำเสนอภาพสามารถมองเห็นภาพร่างกายได้ชัดเจนและเรียนรู้วิธีการฉีดยาที่กล้ามเนื้อมีมุมองศาแตกต่างกัน มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเกิดประโยชน์กับการเรียนการสอนสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ใช้งานง่าย และสามารถนำไปใช้งานได้จริง และพบว่ามีข้อบกพร่อง ได้แก่ ภาพมีขนาดเล็กและไม่ชัดเจน ประกอบกับเสียงบรรยายไม่ชัดเจนและขาดความนุ่มนวลของเสียง มีรายละเอียดและคำบรรยายในการสอนของเนื้อหาน้อยเกินไป การแสดงเนื้อหามีระยะเวลาสั้น ตลอดจนอุปกรณ์มีขนาดเล็กทำให้ขาดความน่าสนใจCurricular : GE Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27854 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000598316 SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2018-01 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000598431 SIU IS-T: SOLA-MAMIC-2018-01 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU THE-T. การรับรู้ของพนักงานที่มีต่อรูปแบบการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทย / สาลินี ชัยวัฒนพร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU THE-T Title : การรับรู้ของพนักงานที่มีต่อรูปแบบการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทย Original title : Perceptions of Employees towards Thai Manager’s Management Style Material Type: printed text Authors: สาลินี ชัยวัฒนพร, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; เพชรรัตน์ โล้วิชากรติกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: xvi, 344 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2017-01
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การบริหารงาน
[LCSH]วัฒนธรรมองค์การ -- การจัดการ
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงานKeywords: การรับรู้ของพนักงาน,
การยอมรับของพนักงาน,
การบริหารงาน,
ผู้จัดการชาวไทยAbstract: งานวิจัยนี้ เพื่อศึกษาการรับรู้ของพนักงานเกี่ยวกับรูปแบบของของผู้จัดการชาวไทย โดยมี
กลุ่มตัวอย่าง 800 คน และศึกษาผู้ที่สาเร็จปริญญาตรีและประกอบอาชีพในหน่วยงานภาครัฐและ
ภาคส่วนเอกชน อย่างละ 400 คน ซึ่งแบบสอบถามได้ถูกพัฒนามาจากแนวคิด 5 มิติทางวัฒนธรรมของ ฮอฟสตีท (Hofstede) และได้ไปพัฒนาต่อเนื่องและถูกใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง งานวิจัยนี้ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม และทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร โดยใช้สถิติเชิงอนุมาณในการหาค่า t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-way ANOVA ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ในส่วนงานราชการมีการรับรู้การบริหารของผู้จัดการชาวไทยรับรู้ว่า
หัวหน้างานมักหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็นอันดับแรก (มิติการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน) รองลงมาคือการตั้งเป้าหมายในระยะยาว (มิติเป้าหมายระยะยาว) การรักษาระยะห่างจากลูกน้อง (มิติความเหลื่อมล้าในอานาจ) แบ่งแยกความสาคัญระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง (มิติการแบ่งแยกชายหญิง) และมีความนิยมเป็นหมู่เหล่าค่อนข้างมาก (ปัจเจกบุคคลและกลุ่มนิยม) ตามลาดับ ส่วนการยอมรับการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทยของพนักงานในส่วนงานราชการพบว่าให้ความสาคัญเกี่ยวกับลักษณะผู้นาของผู้บริหารเป็นอันดับแรก ถัดมาคือความพึงพอใจในการทางาน ความพึงพอใจในตัวผู้บังคับบัญชา ระบบการให้คุณให้โทษ การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในการทางาน ระบบการประเมินผล ตามลาดับ
นอกจากนี้ ผลการวิจัยในส่วนงานเอกชนมีการรับรู้ของพนักงานที่แตกต่างกัน โดยรับรู้ว่า
ผู้จัดการชาวไทยให้ความสาคัญกับการมีเป้าหมายในระยะยาวมากที่สุด รองลงมาคือการหลีกเลี่ยง
ความเสี่ยง (มิติหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน) รักษาระยะห่างระหว่างตนเองกับลูกน้อง (มิติความเหลื่อมล้าในอานาจ) มีความรักพวกพ้อง (มิติปัจเจกบุคคลและกลุ่มนิยม) และเห็นว่าผู้หญิงมีความสาคัญเท่าเทียมกับผู้ชาย (มิติการแบ่งแยกชายหญิง) ตามลาดับ นอกจากนั้นผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าพนักงานชาวไทยทั้งภาครัฐและเอกชนส่วนใหญ่ การยอมรับการทางานภายใต้การบริหารงานของผู้จัดการชาวไทยว่ามีความพึงพอใจในการทางานเป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในการทางาน ลักษณะของผู้นาของผู้บริหาร ความพึงพอใจในตัวผู้บังคับบัญชา ระบบการประเมินผลงาน และระบบการให้คุณให้โทษ ตามลาดับCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26777 SIU THE-T. การรับรู้ของพนักงานที่มีต่อรูปแบบการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทย = Perceptions of Employees towards Thai Manager’s Management Style [printed text] / สาลินี ชัยวัฒนพร, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; เพชรรัตน์ โล้วิชากรติกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - xvi, 344 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU THE-T: SOM-DBA-2017-01
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การบริหารงาน
[LCSH]วัฒนธรรมองค์การ -- การจัดการ
[LCSH]แรงจูงใจในการทำงานKeywords: การรับรู้ของพนักงาน,
การยอมรับของพนักงาน,
การบริหารงาน,
ผู้จัดการชาวไทยAbstract: งานวิจัยนี้ เพื่อศึกษาการรับรู้ของพนักงานเกี่ยวกับรูปแบบของของผู้จัดการชาวไทย โดยมี
กลุ่มตัวอย่าง 800 คน และศึกษาผู้ที่สาเร็จปริญญาตรีและประกอบอาชีพในหน่วยงานภาครัฐและ
ภาคส่วนเอกชน อย่างละ 400 คน ซึ่งแบบสอบถามได้ถูกพัฒนามาจากแนวคิด 5 มิติทางวัฒนธรรมของ ฮอฟสตีท (Hofstede) และได้ไปพัฒนาต่อเนื่องและถูกใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง งานวิจัยนี้ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม และทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร โดยใช้สถิติเชิงอนุมาณในการหาค่า t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-way ANOVA ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ในส่วนงานราชการมีการรับรู้การบริหารของผู้จัดการชาวไทยรับรู้ว่า
หัวหน้างานมักหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็นอันดับแรก (มิติการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน) รองลงมาคือการตั้งเป้าหมายในระยะยาว (มิติเป้าหมายระยะยาว) การรักษาระยะห่างจากลูกน้อง (มิติความเหลื่อมล้าในอานาจ) แบ่งแยกความสาคัญระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง (มิติการแบ่งแยกชายหญิง) และมีความนิยมเป็นหมู่เหล่าค่อนข้างมาก (ปัจเจกบุคคลและกลุ่มนิยม) ตามลาดับ ส่วนการยอมรับการบริหารงานของผู้จัดการชาวไทยของพนักงานในส่วนงานราชการพบว่าให้ความสาคัญเกี่ยวกับลักษณะผู้นาของผู้บริหารเป็นอันดับแรก ถัดมาคือความพึงพอใจในการทางาน ความพึงพอใจในตัวผู้บังคับบัญชา ระบบการให้คุณให้โทษ การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในการทางาน ระบบการประเมินผล ตามลาดับ
นอกจากนี้ ผลการวิจัยในส่วนงานเอกชนมีการรับรู้ของพนักงานที่แตกต่างกัน โดยรับรู้ว่า
ผู้จัดการชาวไทยให้ความสาคัญกับการมีเป้าหมายในระยะยาวมากที่สุด รองลงมาคือการหลีกเลี่ยง
ความเสี่ยง (มิติหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน) รักษาระยะห่างระหว่างตนเองกับลูกน้อง (มิติความเหลื่อมล้าในอานาจ) มีความรักพวกพ้อง (มิติปัจเจกบุคคลและกลุ่มนิยม) และเห็นว่าผู้หญิงมีความสาคัญเท่าเทียมกับผู้ชาย (มิติการแบ่งแยกชายหญิง) ตามลาดับ นอกจากนั้นผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าพนักงานชาวไทยทั้งภาครัฐและเอกชนส่วนใหญ่ การยอมรับการทางานภายใต้การบริหารงานของผู้จัดการชาวไทยว่ามีความพึงพอใจในการทางานเป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในการทางาน ลักษณะของผู้นาของผู้บริหาร ความพึงพอใจในตัวผู้บังคับบัญชา ระบบการประเมินผลงาน และระบบการให้คุณให้โทษ ตามลาดับCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26777 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593390 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-01 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593424 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-01 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อการประกันภัยรถยนต์ กับบริษัทประกันภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ / ทิพวัลย์ ศักดาพิทักษ์
Collection Title: SIU IS-T Title : ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อการประกันภัยรถยนต์ กับบริษัทประกันภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ Original title : Factors Affecting the Purchasing Decision to Motor Insurance with Insurance Company in Phetchabun Material Type: printed text Authors: ทิพวัลย์ ศักดาพิทักษ์, Author ; อุมาหฤทัย วรรณศรี, Associated Name ; กรวิชญ์ บุญส่ง, Associated Name Pagination: xiv, 111 p. Layout: ill, tables Size: 30 cm. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: SOM-MBA-2014-03
Independent Study. [MS[MBA]]--Shinawatra University, 2014.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]Consumers -- Decision purchasing
[LCSH]รถยนต์ -- เพชรบูรณ์
[LCSH]สินค้า -- ประกันภัยKeywords: การรับรู้ถึงความเสี่ยง
การเลือกบนทางเลือก
บริการที่ลูกค้าคาดหวัง
อิทธิพลทางครอบครัวAbstract: การค้นคว้าอิสระเรื่อง ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อการประกันภัยรถยนต์กับบริษัทประกันภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ศึกษาข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด และเปรียบเทียบความแตกต่างของปัจจัยส่วนบุคคล ต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันภัย โดยทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างจังหวัดเพชรบูรณ์ Curricular : GE/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26200 SIU IS-T. ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อการประกันภัยรถยนต์ กับบริษัทประกันภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ = Factors Affecting the Purchasing Decision to Motor Insurance with Insurance Company in Phetchabun [printed text] / ทิพวัลย์ ศักดาพิทักษ์, Author ; อุมาหฤทัย วรรณศรี, Associated Name ; กรวิชญ์ บุญส่ง, Associated Name . - [s.d.] . - xiv, 111 p. : ill, tables ; 30 cm.
500.00
SIU IS-T: SOM-MBA-2014-03
Independent Study. [MS[MBA]]--Shinawatra University, 2014.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]Consumers -- Decision purchasing
[LCSH]รถยนต์ -- เพชรบูรณ์
[LCSH]สินค้า -- ประกันภัยKeywords: การรับรู้ถึงความเสี่ยง
การเลือกบนทางเลือก
บริการที่ลูกค้าคาดหวัง
อิทธิพลทางครอบครัวAbstract: การค้นคว้าอิสระเรื่อง ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อการประกันภัยรถยนต์กับบริษัทประกันภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ศึกษาข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด และเปรียบเทียบความแตกต่างของปัจจัยส่วนบุคคล ต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันภัย โดยทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างจังหวัดเพชรบูรณ์ Curricular : GE/MBA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26200 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000590685 SIU IS-T: SOM-MBA-2014-03 c.1 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available SIU Thesis. ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการรับรู้ของลูกค้า: กรณีศึกษา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) / อัจฉรา ฉัตรเฉลิมพล / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2018
Collection Title: SIU Thesis Title : ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการรับรู้ของลูกค้า: กรณีศึกษา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) Original title : The Impact of Social Media on Customers’ Perception: A Case Study of PTT Public Company Limited Material Type: printed text Authors: อัจฉรา ฉัตรเฉลิมพล, Author ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name ; เฟื่องฟ้า อัมพรสถิร, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2018 Pagination: xiv, 275 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 บาท General note: SIU THE-T: SOLA-PhD-MIC-2018-01
Thesis. [PhD.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2018.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
[LCSH]สื่อสังคมออนไลน์
[LCSH]เครือข่ายสังคมแบบออนไลน์Keywords: บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ “ปตท.”,
ผลกระทบ,
การรับรู้,
สื่อสังคมออนไลน์Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการรับรู้ของลูกค้า ในด้านภาพลักษณ์องค์กร และในด้านธุรกิจการค้า ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยในด้านภาพลักษณ์องค์กร ศึกษาจากความสัมพันธ์ของการเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ด้านการบริหาร และด้านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นนามธรรม ส่วนในด้านธุรกิจการค้า ศึกษาจากความสัมพันธ์ของการเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งเป็นรูปธรรม จำแนกหัวข้อได้ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ด้านบริหารและด้านกิจกรรมต่างๆ ต่อการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กรของ ปตท. 2. เพื่อศึกษาผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ต่อการรับรู้ในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. 3. เพื่อศึกษาผลกระทบด้านลักษณะประชากรศาสตร์ ต่อการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กร และในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. 4. เพื่อศึกษาผลกระทบด้านเครื่องมือสื่อสังคมออนไลน์ ต่อการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กร และในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. และ 5. เพื่อค้นหาแบบจำลอง (Model) ในการบริหารจัดการสื่อสังคมออนไลน์ของ ปตท. และผลกระทบจากภายนอก ปตท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้การวิจัยแบบผสมผสาน ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ลูกค้า ปตท. ที่มีอายุ 18 ขึ้นไป และมีบัญชีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ จำนวน 400 คน เพื่อตอบแบบสอบถาม (Questionnaire) และลูกค้าอีกจำนวน 12 คน ที่รู้จักและมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์มากกว่า 7 ชนิด อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอเป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปี เพื่อตอบคำถามสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) วิธีการสุ่มตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ การสุ่มตัวอย่างแบบโควตา (Quota Sampling) และการสุ่มตัวอย่างแบบตามความสะดวก (Convenience Sampling) เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) และ 2. การวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. ในเชิงปริมาณ ส่วนเครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ 1. การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และ 2. การวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. ในเชิงคุณภาพ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าความถี่ (Frequency) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation หรือ S.D.) ค่าสถิติอนุมาน (Inferential Statistic) ค่าสถิติ Pearson’s Correlation ค่า t-test ค่า One-way ANOVA (f-test) เทคนิคการสะสมสรุป (Cumulative Summarization Technique) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และการวิเคราะห์ตัวแปรเพื่อทดสอบสมมติฐาน
ผลการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 9-30 ปี สถานภาพสมรส การศึกษาระดับปริญญาตรี อาชีพรับราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ รายได้เฉลี่ยน้อยกว่า 20,000 บาท/เดือน ใช้สินค้าน้ำมันมากที่สุด ใช้สื่อทั่วไป คือ โทรทัศน์มากที่สุด ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั่วไป ประเภท LINE มากที่สุด และใช้สื่อสังคมออนไลน์ของ ปตท. ประเภท LINE “PTT Group” มากที่สุด ผ่านช่องทางโทรศัพท์มือถือมากที่สุด ที่ความถี่ 2-3 ชั่วโมง/สัปดาห์ ค่าใช้จ่าย 301-500 บาท/เดือน โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ของ ปตท. เพื่อรับข้อมูลข่าวสาร และมีความเชื่อถือในระดับมาก เคยได้รับข้อมูลข่าวสารของ ปตท. จากช่องทางอื่น แต่มีความเชื่อถือในระดับปานกลาง มีความเชื่อถือในภาพลักษณ์องค์กรที่ดีของ ปตท. ในระดับมาก มีการรับรู้ด้านบริหารของ ปตท. ในระดับมาก ด้านผลิตภัณฑ์และบริการในระดับมาก และด้านกิจกรรมต่างๆ ในระดับปานกลาง มีการรับรู้ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการสื่อสารของ ปตท. ด้านบวกและด้านลบในระดับปานกลาง
ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า 1. การเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ด้านบริหารและด้านกิจกรรมต่างๆ มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กรของ ปตท. ในระดับสูง (r = .702) และ (r = .611) ตามลำดับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (เป็นไปตามสมมติฐาน) 2. การเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับการรับรู้ในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. ในระดับสูง (r = .681) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (เป็นไปตามสมมติฐาน) 3. ลักษณะประชากรศาสตร์ที่แตกต่างกัน ไม่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กรและในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. ที่แตกต่างกัน (ไม่เป็นไปตามสมมติฐาน) ยกเว้น “ด้านอาชีพ” ที่เป็นไปตามสมมติฐาน เฉพาะด้านภาพลักษณ์องค์กร 4. เครื่องมือสื่อสังคมออนไลน์ที่แตกต่างกัน ไม่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กรและในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. ที่แตกต่างกัน (ไม่เป็นไปตามสมมติฐาน)
ผลการวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. ในเชิงปริมาณ พบว่า ในระยะเวลา 6 เดือน มีประเด็นข่าวจำนวน 5,968 ประเด็น เป็นประเด็นทั่วไป ประเด็นบวก และ ประเด็นลบ ในสัดส่วน 26.44% : 59.22% : 14.34% ตามลำดับ
ผลการวิจัยเชิงคุณภาพทั้งจากการสัมภาษณ์เชิงลึก และจากการวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. พบว่า ส่วนใหญ่มีทัศนคติต่อ ปตท. ในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ
สรุป จากผลการวิจัยโดยรวมของเครื่องมือทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ (1) ผลการวิจัยเชิงปริมาณจากแบบสอบถาม (2) ผลการวิจัยเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์เชิงลึก และ (3) ผลการวิเคราะห์ข่าวจากสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. ทั้งแบบเชิงปริมาณและแบบเชิงคุณภาพ พบว่า ภาพรวมของสื่อสังคมออนไลน์ ปตท. มีความสัมพันธ์และมีผลกระทบต่อการรับรู้ของลูกค้า ปตท. ในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ ส่วนผลการค้นหาแบบจำลอง (Model) ได้แก่ “3 F and 4 Steps Circle” หรือ กลยุทธ์ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ และกระบวนการเพิ่มข่าวบวกและลดข่าวลบ ถือเป็นการค้นพบทางวิชาการเพื่อเพิ่มพูนความรู้ (Body of Knowledge) ซึ่งสามารถนำไปใช้กับองค์กรอื่นได้Curricular : BALA/GE/MTEIL/PhDT Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27843 SIU Thesis. ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการรับรู้ของลูกค้า: กรณีศึกษา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) = The Impact of Social Media on Customers’ Perception: A Case Study of PTT Public Company Limited [printed text] / อัจฉรา ฉัตรเฉลิมพล, Author ; วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ, Associated Name ; เฟื่องฟ้า อัมพรสถิร, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2018 . - xiv, 275 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00 บาท
SIU THE-T: SOLA-PhD-MIC-2018-01
Thesis. [PhD.[Arts in Media Information and Communication]]. Shinawatra University, 2018.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
[LCSH]สื่อสังคมออนไลน์
[LCSH]เครือข่ายสังคมแบบออนไลน์Keywords: บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ “ปตท.”,
ผลกระทบ,
การรับรู้,
สื่อสังคมออนไลน์Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการรับรู้ของลูกค้า ในด้านภาพลักษณ์องค์กร และในด้านธุรกิจการค้า ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยในด้านภาพลักษณ์องค์กร ศึกษาจากความสัมพันธ์ของการเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ด้านการบริหาร และด้านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นนามธรรม ส่วนในด้านธุรกิจการค้า ศึกษาจากความสัมพันธ์ของการเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งเป็นรูปธรรม จำแนกหัวข้อได้ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ด้านบริหารและด้านกิจกรรมต่างๆ ต่อการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กรของ ปตท. 2. เพื่อศึกษาผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ต่อการรับรู้ในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. 3. เพื่อศึกษาผลกระทบด้านลักษณะประชากรศาสตร์ ต่อการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กร และในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. 4. เพื่อศึกษาผลกระทบด้านเครื่องมือสื่อสังคมออนไลน์ ต่อการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กร และในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. และ 5. เพื่อค้นหาแบบจำลอง (Model) ในการบริหารจัดการสื่อสังคมออนไลน์ของ ปตท. และผลกระทบจากภายนอก ปตท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้การวิจัยแบบผสมผสาน ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ลูกค้า ปตท. ที่มีอายุ 18 ขึ้นไป และมีบัญชีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ จำนวน 400 คน เพื่อตอบแบบสอบถาม (Questionnaire) และลูกค้าอีกจำนวน 12 คน ที่รู้จักและมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์มากกว่า 7 ชนิด อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอเป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปี เพื่อตอบคำถามสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) วิธีการสุ่มตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ การสุ่มตัวอย่างแบบโควตา (Quota Sampling) และการสุ่มตัวอย่างแบบตามความสะดวก (Convenience Sampling) เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) และ 2. การวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. ในเชิงปริมาณ ส่วนเครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ 1. การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และ 2. การวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. ในเชิงคุณภาพ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าความถี่ (Frequency) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation หรือ S.D.) ค่าสถิติอนุมาน (Inferential Statistic) ค่าสถิติ Pearson’s Correlation ค่า t-test ค่า One-way ANOVA (f-test) เทคนิคการสะสมสรุป (Cumulative Summarization Technique) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และการวิเคราะห์ตัวแปรเพื่อทดสอบสมมติฐาน
ผลการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 9-30 ปี สถานภาพสมรส การศึกษาระดับปริญญาตรี อาชีพรับราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ รายได้เฉลี่ยน้อยกว่า 20,000 บาท/เดือน ใช้สินค้าน้ำมันมากที่สุด ใช้สื่อทั่วไป คือ โทรทัศน์มากที่สุด ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั่วไป ประเภท LINE มากที่สุด และใช้สื่อสังคมออนไลน์ของ ปตท. ประเภท LINE “PTT Group” มากที่สุด ผ่านช่องทางโทรศัพท์มือถือมากที่สุด ที่ความถี่ 2-3 ชั่วโมง/สัปดาห์ ค่าใช้จ่าย 301-500 บาท/เดือน โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ของ ปตท. เพื่อรับข้อมูลข่าวสาร และมีความเชื่อถือในระดับมาก เคยได้รับข้อมูลข่าวสารของ ปตท. จากช่องทางอื่น แต่มีความเชื่อถือในระดับปานกลาง มีความเชื่อถือในภาพลักษณ์องค์กรที่ดีของ ปตท. ในระดับมาก มีการรับรู้ด้านบริหารของ ปตท. ในระดับมาก ด้านผลิตภัณฑ์และบริการในระดับมาก และด้านกิจกรรมต่างๆ ในระดับปานกลาง มีการรับรู้ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการสื่อสารของ ปตท. ด้านบวกและด้านลบในระดับปานกลาง
ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า 1. การเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ด้านบริหารและด้านกิจกรรมต่างๆ มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กรของ ปตท. ในระดับสูง (r = .702) และ (r = .611) ตามลำดับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (เป็นไปตามสมมติฐาน) 2. การเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับการรับรู้ในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. ในระดับสูง (r = .681) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (เป็นไปตามสมมติฐาน) 3. ลักษณะประชากรศาสตร์ที่แตกต่างกัน ไม่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กรและในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. ที่แตกต่างกัน (ไม่เป็นไปตามสมมติฐาน) ยกเว้น “ด้านอาชีพ” ที่เป็นไปตามสมมติฐาน เฉพาะด้านภาพลักษณ์องค์กร 4. เครื่องมือสื่อสังคมออนไลน์ที่แตกต่างกัน ไม่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ในด้านภาพลักษณ์องค์กรและในด้านธุรกิจการค้าของ ปตท. ที่แตกต่างกัน (ไม่เป็นไปตามสมมติฐาน)
ผลการวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. ในเชิงปริมาณ พบว่า ในระยะเวลา 6 เดือน มีประเด็นข่าวจำนวน 5,968 ประเด็น เป็นประเด็นทั่วไป ประเด็นบวก และ ประเด็นลบ ในสัดส่วน 26.44% : 59.22% : 14.34% ตามลำดับ
ผลการวิจัยเชิงคุณภาพทั้งจากการสัมภาษณ์เชิงลึก และจากการวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. พบว่า ส่วนใหญ่มีทัศนคติต่อ ปตท. ในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ
สรุป จากผลการวิจัยโดยรวมของเครื่องมือทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ (1) ผลการวิจัยเชิงปริมาณจากแบบสอบถาม (2) ผลการวิจัยเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์เชิงลึก และ (3) ผลการวิเคราะห์ข่าวจากสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปที่เกี่ยวกับ ปตท. ทั้งแบบเชิงปริมาณและแบบเชิงคุณภาพ พบว่า ภาพรวมของสื่อสังคมออนไลน์ ปตท. มีความสัมพันธ์และมีผลกระทบต่อการรับรู้ของลูกค้า ปตท. ในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ ส่วนผลการค้นหาแบบจำลอง (Model) ได้แก่ “3 F and 4 Steps Circle” หรือ กลยุทธ์ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ และกระบวนการเพิ่มข่าวบวกและลดข่าวลบ ถือเป็นการค้นพบทางวิชาการเพื่อเพิ่มพูนความรู้ (Body of Knowledge) ซึ่งสามารถนำไปใช้กับองค์กรอื่นได้Curricular : BALA/GE/MTEIL/PhDT Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27843 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000598282 SIU THE-T: SOLA-PhD-MIC-2018-01 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000598258 SIU THE-T: SOLA-PhD-MIC-2018-01 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available การจัดบริการสุขภาพที่สอดคล้องกับวิถีอิสลามในคลินิกฝากครรภ์ / สศิกร อุณหบัณฑิต in วารสารพยาบาลสาธารณสุข, Vol.30 No.1 (Jan-Apr) 2016 ([06/09/2016])
[article]
Title : การจัดบริการสุขภาพที่สอดคล้องกับวิถีอิสลามในคลินิกฝากครรภ์ : โรงพยาบาลชุมชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ตามการรับรู้ของหญิงตั้งครรภ์และสามี Original title : Healthcare service based on Islamic way in the antenatal care clinic of community hospitals in the three southermost provinces as perceived by pregnant women and husbands Material Type: printed text Authors: สศิกร อุณหบัณฑิต, Author ; นงนุช บุญยัง, Author ; วิมลรัตน์ จงเจริญ, Author Publication Date: 2016 Article on page: p.13-28 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลสาธารณสุข > Vol.30 No.1 (Jan-Apr) 2016 [06/09/2016] . - p.13-28Keywords: การจัดบริการสุขภาพ.โรงพยาบาลชุใชน.การรับรู้ของหญิงตั้งครรภ์.การรับรู้ของสามี. Curricular : BNS Link for e-copy: http://phpn.ph.mahidol.ac.th/Journal/index.html Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25595 [article] การจัดบริการสุขภาพที่สอดคล้องกับวิถีอิสลามในคลินิกฝากครรภ์ = Healthcare service based on Islamic way in the antenatal care clinic of community hospitals in the three southermost provinces as perceived by pregnant women and husbands : โรงพยาบาลชุมชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ตามการรับรู้ของหญิงตั้งครรภ์และสามี [printed text] / สศิกร อุณหบัณฑิต, Author ; นงนุช บุญยัง, Author ; วิมลรัตน์ จงเจริญ, Author . - 2016 . - p.13-28.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลสาธารณสุข > Vol.30 No.1 (Jan-Apr) 2016 [06/09/2016] . - p.13-28Keywords: การจัดบริการสุขภาพ.โรงพยาบาลชุใชน.การรับรู้ของหญิงตั้งครรภ์.การรับรู้ของสามี. Curricular : BNS Link for e-copy: http://phpn.ph.mahidol.ac.th/Journal/index.html Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25595 การตัดสินใจเชิงจริยธรรมในการปฏิบัติการพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของพยาบาลไทยตามการรับรู้ของผู้บริหารทางการพยาบาล / เพ็ญจันทร์ แสนประสาน in วารสารพยาบาลทหารบก, Vol.18 No.1 (๋Jan-Apr) 2017 ([05/23/2017])
[article]
Title : การตัดสินใจเชิงจริยธรรมในการปฏิบัติการพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของพยาบาลไทยตามการรับรู้ของผู้บริหารทางการพยาบาล Original title : Ethical judement in risks of nursing practice among Thai nurses as perceived by nursing administrators Material Type: printed text Authors: เพ็ญจันทร์ แสนประสาน, Author ; สายสมร เฉลยกิตติ, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.194-195 Languages : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลทหารบก > Vol.18 No.1 (๋Jan-Apr) 2017 [05/23/2017] . - p.194-195Keywords: การตัดสินใจเชิงจริยธรรม.ความเสี่ยงในการปฏิบัติการพยาบาล.การรับรู้ของผู้บริหา่รการพยาบาล. Abstract: เพื่อศึกษาประเด็นจริยธรรมที่เกี่ยวกับความเสี่ยงและการตัดสินใจเชิงจริยธรรมที่เกี่ยวกับความเสี่ยงในการปฏิบัติการพยาบาลของพยาบาลตามการรับรู้ของบริหารทางการพยาบาลการออกแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนด ผู้บริหารทางการพยาบาลที่เต็มใจเข้าร่วมการศึกษานี้จำนวน 36 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสนทนากลุ่มพร้อมศึกษารายงานการบันทึกกรณีศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการวิเคราะหฺข้อมูลเชิงผลการวิจัย พบว่า ผลจริยธรรมวิชาชีพที่เกี่ยวกับความเสี่ยงที่พยาบาลส่วนใหญ่ปฏิบัติขณะทำงานในบทบาท หน้าที่ พยาบาลตามมุมมองของผู้บริหารทางการพยาบาลมีจำนวน 7 ประเด็น ความสำคัญตามลำดับ คือ ประเด็นจริยธรรมที่มีความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1) การให้ข้อมูลการสื่อสาร 2 การประเมินอาการไม่ถูกต้องและไม่ทันเวลา 3การบริหารยาไม่ถูกต้อง 4 การบริการไม่ถูกใจ ล่าช้า และพฤจติกรรมไม่เหมาะสม 5 การส่งต่อล่าช้า 6 การผูกมัด 7 การพลัดตก และพฤติกรรมจริยธรรมที่นำไปใช้ในการปฏิบัติในการพยาบาลที่ใช้ ได้แก่ 1 การบอกความจริง 2 การป้องกันอันตราย 3 พิทักษ์สิทธิผู้ป่วย 4 ความซื่อสัตน์ 5 ความอาทรต่อผู้ป่วย 6 การเป็นอิสระในการตัดสินใจ 7 การเสียสละ 8 การมีพฤติกรรมการบริการและมีใจบริการที่ดัี 9 การดูแลผู้ป่วยอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ 10 ความรับผิดขอบและ 11 การรักษาความลับจากข้อมูลที่ได้จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า พยาบาลไทนมีความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมวิชาชีพที่มีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานและมีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
ข้อเสนอแนะ ผู้บริหารทางการพยาบาลสามารถใช้ข้อมูลจากการศึกษานี้ไปใช้ในการวางแผนการพัฒนาและส่งเสริมให้พยาบาลในการสร้างความเข้าใจในการจัดการเชิงจริยธรรมที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อลดปัญหาการปฏิบัติการพยาบาลและส่งเสริมให้พยายาลเข้าใจกระบวนการตัดสินใจที่เหมาะสมต่อไป
Link for e-copy: www.nurseasct.or.th Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26756 [article] การตัดสินใจเชิงจริยธรรมในการปฏิบัติการพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของพยาบาลไทยตามการรับรู้ของผู้บริหารทางการพยาบาล = Ethical judement in risks of nursing practice among Thai nurses as perceived by nursing administrators [printed text] / เพ็ญจันทร์ แสนประสาน, Author ; สายสมร เฉลยกิตติ, Author . - 2017 . - p.194-195.
Languages : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลทหารบก > Vol.18 No.1 (๋Jan-Apr) 2017 [05/23/2017] . - p.194-195Keywords: การตัดสินใจเชิงจริยธรรม.ความเสี่ยงในการปฏิบัติการพยาบาล.การรับรู้ของผู้บริหา่รการพยาบาล. Abstract: เพื่อศึกษาประเด็นจริยธรรมที่เกี่ยวกับความเสี่ยงและการตัดสินใจเชิงจริยธรรมที่เกี่ยวกับความเสี่ยงในการปฏิบัติการพยาบาลของพยาบาลตามการรับรู้ของบริหารทางการพยาบาลการออกแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนด ผู้บริหารทางการพยาบาลที่เต็มใจเข้าร่วมการศึกษานี้จำนวน 36 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสนทนากลุ่มพร้อมศึกษารายงานการบันทึกกรณีศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการวิเคราะหฺข้อมูลเชิงผลการวิจัย พบว่า ผลจริยธรรมวิชาชีพที่เกี่ยวกับความเสี่ยงที่พยาบาลส่วนใหญ่ปฏิบัติขณะทำงานในบทบาท หน้าที่ พยาบาลตามมุมมองของผู้บริหารทางการพยาบาลมีจำนวน 7 ประเด็น ความสำคัญตามลำดับ คือ ประเด็นจริยธรรมที่มีความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1) การให้ข้อมูลการสื่อสาร 2 การประเมินอาการไม่ถูกต้องและไม่ทันเวลา 3การบริหารยาไม่ถูกต้อง 4 การบริการไม่ถูกใจ ล่าช้า และพฤจติกรรมไม่เหมาะสม 5 การส่งต่อล่าช้า 6 การผูกมัด 7 การพลัดตก และพฤติกรรมจริยธรรมที่นำไปใช้ในการปฏิบัติในการพยาบาลที่ใช้ ได้แก่ 1 การบอกความจริง 2 การป้องกันอันตราย 3 พิทักษ์สิทธิผู้ป่วย 4 ความซื่อสัตน์ 5 ความอาทรต่อผู้ป่วย 6 การเป็นอิสระในการตัดสินใจ 7 การเสียสละ 8 การมีพฤติกรรมการบริการและมีใจบริการที่ดัี 9 การดูแลผู้ป่วยอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ 10 ความรับผิดขอบและ 11 การรักษาความลับจากข้อมูลที่ได้จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า พยาบาลไทนมีความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมวิชาชีพที่มีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานและมีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
ข้อเสนอแนะ ผู้บริหารทางการพยาบาลสามารถใช้ข้อมูลจากการศึกษานี้ไปใช้ในการวางแผนการพัฒนาและส่งเสริมให้พยาบาลในการสร้างความเข้าใจในการจัดการเชิงจริยธรรมที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อลดปัญหาการปฏิบัติการพยาบาลและส่งเสริมให้พยายาลเข้าใจกระบวนการตัดสินใจที่เหมาะสมต่อไป
Link for e-copy: www.nurseasct.or.th Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26756 การประเมินผลโดยใช้รูปแบบชิปป์ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับวิชาพยาบาล (พบ.292) / พีรนุช ลาเซอร์ in วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, Vol.36 No.2 (May-Aug) 2016 ([12/27/2016])
[article]
Title : การประเมินผลโดยใช้รูปแบบชิปป์ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับวิชาพยาบาล (พบ.292) : คณะพยาบาลศาสตร์ แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ Original title : The evaluation of the English for nursing profession course (SN292) at McCormick faculty of nursing, Payap university using CIPP model Material Type: printed text Authors: พีรนุช ลาเซอร์, Author ; อรอนงค์ ธรรมจินดา, Author Publication Date: 2016 Article on page: p.47-64 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์ > Vol.36 No.2 (May-Aug) 2016 [12/27/2016] . - p.47-64Keywords: การประเมินการจัดการเรียนการสอน.รูปแบบซิปป์.นักศึกษาพยาบาล.ภาษาอังกฤษสำหรับพยาบาลวิชาชีพ. Link for e-copy: www.nur.psu.ac.th/journal/ Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25910 [article] การประเมินผลโดยใช้รูปแบบชิปป์ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับวิชาพยาบาล (พบ.292) = The evaluation of the English for nursing profession course (SN292) at McCormick faculty of nursing, Payap university using CIPP model : คณะพยาบาลศาสตร์ แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ [printed text] / พีรนุช ลาเซอร์, Author ; อรอนงค์ ธรรมจินดา, Author . - 2016 . - p.47-64.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)การพัฒนาชุดฝึกฉีดยาทางกล้ามเนื้อเพื่อสอนนักศึกษาพยาบาลและการประเมินประสิทธิผล / ณัฎฐชา เจียรนิลกุลชัย in วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, Vol.36 No.2 (May-Aug) 2016 ([12/27/2016])
[article]
Title : การพัฒนาชุดฝึกฉีดยาทางกล้ามเนื้อเพื่อสอนนักศึกษาพยาบาลและการประเมินประสิทธิผล Original title : Development of the intramuscular injection model for nursing students and evaluation of the effectiveness of the model Material Type: printed text Authors: ณัฎฐชา เจียรนิลกุลชัย, Author ; จินดา นันทวงษ์, Author Publication Date: 2016 Article on page: p.65-77 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์ > Vol.36 No.2 (May-Aug) 2016 [12/27/2016] . - p.65-77Keywords: การพัฒนาชุดฝึกฉีดยาทางกล้ามเนื้อ.นักศึกษาพยาบาล.การประเมินประสิทธิผล. Link for e-copy: www.nur.psu.ac.th/journal/ Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25911 [article] การพัฒนาชุดฝึกฉีดยาทางกล้ามเนื้อเพื่อสอนนักศึกษาพยาบาลและการประเมินประสิทธิผล = Development of the intramuscular injection model for nursing students and evaluation of the effectiveness of the model [printed text] / ณัฎฐชา เจียรนิลกุลชัย, Author ; จินดา นันทวงษ์, Author . - 2016 . - p.65-77.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาล / มนสภรณ์ วิทูรเมธา in วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก, Vol.27 No.2 (ก.ค-ธ.ค) 2559/2016 ([11/16/2017])
[article]
Title : การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาล : ของนักศึกษาพยาบาล Material Type: printed text Authors: มนสภรณ์ วิทูรเมธา, Author ; มาลี เอี่ยมสำอาง, Author ; ลัดดาวัลย์ เตชางกูร, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.100-113 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก > Vol.27 No.2 (ก.ค-ธ.ค) 2559/2016 [11/16/2017] . - p.100-113Keywords: ความสามารถในการเรียนรู้.กระบวนการพยาบาล.นักศึกษาพยาบาล. Abstract: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนามีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางการส่งเสริมความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาล
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 จำนวน 84 คน คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่เรียนวิชาปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557 และอาจารย์พยาบาล 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย1) แบบประเมินการวางแผนการพยาบาล 2) แบบประเมินความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาล 3)แบบสะท้อนคิดของนักศึกษาพยาบาลในการนำกระบวนการพยาบาลไปใช้ และ 4)แนวคำถามการสนทนากลุ่มนักศึกษาพยาบาล เก็บข้อมูลโดยการสนทนากลุ่มในนักศึกษาพยาบาล และอาจารย์ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า ความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลในวิชาปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานอยู่ในระดับดี (mean = 4.11, S.D. = .291) ปัญหาการใช้กระบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลพบมากที่สุดคือ ขาดทักษะในการประเมินภาวะสุขภาพ ส่วนกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาล คือ 1)การตั้งเป้าหมายในการเรียนของนักศึกษา 2) ฝึกการวางแผนการพยาบาลนำไปใช้ปฏิบัติกับผู้ป่วย 3) มีอาจารย์ให้คำแนะนำ 4) มีการประชุมปรึกษาก่อนและหลังการปฏิบัติงาน 5) มีการเรียนรู้กระบวนการพยาบาลแบบองค์รวม 6) พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ 7) มีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง และต่อบุคลากรทางสุขภาพอื่นๆ ส่วนแนวทางการส่งเสริมความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลมี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) เตรียมความรู้ ฝึกทักษะการใช้กระบวนการพยาบาลในนักศึกษา 2) อาจารย์ควรปรับวิธีการสอน การมอบหมายงาน ประเมินผลการใช้กระบวนการพยาบาลในการปฏิบัติงาน 3) สถาบันหรือคณะพยาบาลควรมีการจัดการเรียนการสอนที่เอื้อต่อการใช้กระบวนการพยาบาลโดยเพิ่มชั่วโมงการฝึกการเขียนวางแผนการพยาบาล
ผลการวิจัยครั้งนี้ สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการเรียนรู้ในการพัฒนาศักยภาพการใช้กะบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลในวิชาการพยาบาลสาขาอื่นๆ ในสถาบันการศึกษาพยาบาลLink for e-copy: http://www.thaicvtnurse.org/index.php?option=com Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27492 [article] การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาล : ของนักศึกษาพยาบาล [printed text] / มนสภรณ์ วิทูรเมธา, Author ; มาลี เอี่ยมสำอาง, Author ; ลัดดาวัลย์ เตชางกูร, Author . - 2017 . - p.100-113.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก > Vol.27 No.2 (ก.ค-ธ.ค) 2559/2016 [11/16/2017] . - p.100-113Keywords: ความสามารถในการเรียนรู้.กระบวนการพยาบาล.นักศึกษาพยาบาล. Abstract: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนามีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางการส่งเสริมความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาล
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 จำนวน 84 คน คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่เรียนวิชาปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557 และอาจารย์พยาบาล 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย1) แบบประเมินการวางแผนการพยาบาล 2) แบบประเมินความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาล 3)แบบสะท้อนคิดของนักศึกษาพยาบาลในการนำกระบวนการพยาบาลไปใช้ และ 4)แนวคำถามการสนทนากลุ่มนักศึกษาพยาบาล เก็บข้อมูลโดยการสนทนากลุ่มในนักศึกษาพยาบาล และอาจารย์ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า ความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลในวิชาปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานอยู่ในระดับดี (mean = 4.11, S.D. = .291) ปัญหาการใช้กระบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลพบมากที่สุดคือ ขาดทักษะในการประเมินภาวะสุขภาพ ส่วนกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาล คือ 1)การตั้งเป้าหมายในการเรียนของนักศึกษา 2) ฝึกการวางแผนการพยาบาลนำไปใช้ปฏิบัติกับผู้ป่วย 3) มีอาจารย์ให้คำแนะนำ 4) มีการประชุมปรึกษาก่อนและหลังการปฏิบัติงาน 5) มีการเรียนรู้กระบวนการพยาบาลแบบองค์รวม 6) พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ 7) มีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง และต่อบุคลากรทางสุขภาพอื่นๆ ส่วนแนวทางการส่งเสริมความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลมี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) เตรียมความรู้ ฝึกทักษะการใช้กระบวนการพยาบาลในนักศึกษา 2) อาจารย์ควรปรับวิธีการสอน การมอบหมายงาน ประเมินผลการใช้กระบวนการพยาบาลในการปฏิบัติงาน 3) สถาบันหรือคณะพยาบาลควรมีการจัดการเรียนการสอนที่เอื้อต่อการใช้กระบวนการพยาบาลโดยเพิ่มชั่วโมงการฝึกการเขียนวางแผนการพยาบาล
ผลการวิจัยครั้งนี้ สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการเรียนรู้ในการพัฒนาศักยภาพการใช้กะบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลในวิชาการพยาบาลสาขาอื่นๆ ในสถาบันการศึกษาพยาบาลLink for e-copy: http://www.thaicvtnurse.org/index.php?option=com Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27492 การพัฒนาแบบวัดความรับผิดชอบของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ / ปริญญาภรณ์ ธนะบุญปวง in วารสารพยาบาลทหารบก, Vol.18 No.2 (May-Aug) 2560 ([08/21/2017])
[article]
Title : การพัฒนาแบบวัดความรับผิดชอบของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ Original title : Development Responsibility Scale for Nursing Student (RSN) Material Type: printed text Authors: ปริญญาภรณ์ ธนะบุญปวง, Author ; ศิริเดช สุชีวะ, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.212-219 Languages : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลทหารบก > Vol.18 No.2 (May-Aug) 2560 [08/21/2017] . - p.212-219Keywords: แบบวัดความรับผิดชอบ.นักศึกษาพยาบาลศาสตร์. Abstract: ความรับผิดชอบเป็นคุณลักษณะพื้นฐานสำคัญในสาขาพยาบาลศาสตร์ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา แห่งชาติของประเทศไทยและอีกหลายๆ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์3 ประการ ได้แก่ 1) พัฒนาโมเดลการวัดและแบบวัดความ รับผิดชอบ 2)ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือและ3)กำหนดคะแนนจุดตัดตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่4 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1,106คน จาก 18 สถาบัน เครื่องมือเป็นแบบวัดความรับผิดชอบบนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียวิธีวิจัยแบ่งเป็น 3ระยะ ได้แก่1)การพัฒนาโมเดลการวัดและแบบวัดความรับผิดชอบ 2)การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือด้วยการวิเคราะห์คุณภาพรายข้อ ความเที่ยงความตรงเชิงโครงสร้างและ3)การกำหนดคะแนนจุดตัดผลการวิจัย พบว่าโมเดลการวัดประกอบด้วย3องค์ประกอบ ได้แก่1)ความรับผิดชอบต่อตนเอง/หน้าที่2)ความรับผิดชอบ ต่อผู้อื่น 3)ความรับผิดชอบต่อสังคม/วิชาชีพ ความเที่ยงแบบความ สอดคล้องภายในโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ .880 การตรวจสอบคุณภาพตามทฤษฎีการทดสอบแบบ ดั้งเดิม (CTT) พบว่า อำนาจจำแนก (r) มีค่าระหว่าง .375 -.546 ทฤษฎีการตอบสนองข้อสอบ (IRT) พบว่า พารามิเตอร์อำนาจ จำแนก (a) มีค่าระหว่าง 0 .93-1.69 ความยาก (b) มีค่าระหว่าง-0.92 ถึง-0.25 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยืน พบว่า โมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์คะแนนจุดตัดที่กำหนดด้วยวิธีบุ๊คมาร์คมีค่าเท่ากับระดับความสามารถ (theta)–0.40 ผลการวิจัยสรุปได้ว่า เครื่องมือที่พัฒนาขึ้นมีความเที่ยงและความตรงสามารถประยุกต์ใช้ในการวัดประเมินผลความรับผิดชอบของ นักศึกษาพยาบาลได้ Link for e-copy: www.nurseasct.or.th Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27245 [article] การพัฒนาแบบวัดความรับผิดชอบของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ = Development Responsibility Scale for Nursing Student (RSN) [printed text] / ปริญญาภรณ์ ธนะบุญปวง, Author ; ศิริเดช สุชีวะ, Author . - 2017 . - p.212-219.
Languages : Thai (tha)
in วารสารพยาบาลทหารบก > Vol.18 No.2 (May-Aug) 2560 [08/21/2017] . - p.212-219Keywords: แบบวัดความรับผิดชอบ.นักศึกษาพยาบาลศาสตร์. Abstract: ความรับผิดชอบเป็นคุณลักษณะพื้นฐานสำคัญในสาขาพยาบาลศาสตร์ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา แห่งชาติของประเทศไทยและอีกหลายๆ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์3 ประการ ได้แก่ 1) พัฒนาโมเดลการวัดและแบบวัดความ รับผิดชอบ 2)ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือและ3)กำหนดคะแนนจุดตัดตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่4 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1,106คน จาก 18 สถาบัน เครื่องมือเป็นแบบวัดความรับผิดชอบบนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียวิธีวิจัยแบ่งเป็น 3ระยะ ได้แก่1)การพัฒนาโมเดลการวัดและแบบวัดความรับผิดชอบ 2)การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือด้วยการวิเคราะห์คุณภาพรายข้อ ความเที่ยงความตรงเชิงโครงสร้างและ3)การกำหนดคะแนนจุดตัดผลการวิจัย พบว่าโมเดลการวัดประกอบด้วย3องค์ประกอบ ได้แก่1)ความรับผิดชอบต่อตนเอง/หน้าที่2)ความรับผิดชอบ ต่อผู้อื่น 3)ความรับผิดชอบต่อสังคม/วิชาชีพ ความเที่ยงแบบความ สอดคล้องภายในโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ .880 การตรวจสอบคุณภาพตามทฤษฎีการทดสอบแบบ ดั้งเดิม (CTT) พบว่า อำนาจจำแนก (r) มีค่าระหว่าง .375 -.546 ทฤษฎีการตอบสนองข้อสอบ (IRT) พบว่า พารามิเตอร์อำนาจ จำแนก (a) มีค่าระหว่าง 0 .93-1.69 ความยาก (b) มีค่าระหว่าง-0.92 ถึง-0.25 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยืน พบว่า โมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์คะแนนจุดตัดที่กำหนดด้วยวิธีบุ๊คมาร์คมีค่าเท่ากับระดับความสามารถ (theta)–0.40 ผลการวิจัยสรุปได้ว่า เครื่องมือที่พัฒนาขึ้นมีความเที่ยงและความตรงสามารถประยุกต์ใช้ในการวัดประเมินผลความรับผิดชอบของ นักศึกษาพยาบาลได้ Link for e-copy: www.nurseasct.or.th Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27245 การพัฒนาแผลหนองเทียมเพื่อส่งเสริมการฝึกทักษะการเก็บสิ่งคัดหลั่งจากแผลเพาะเชื้อ ในนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 / ณัฎฐชา เจียรนิลกุลชัย in วารสารสภาการพยาบาล, Vol.31 No.1 (Jan-Mar) 2016/59 ([03/29/2016])
[article]
Title : การพัฒนาแผลหนองเทียมเพื่อส่งเสริมการฝึกทักษะการเก็บสิ่งคัดหลั่งจากแผลเพาะเชื้อ ในนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 Original title : Development of an artificial pus wound medel to improve seconde year nursing student's skill in performing wound swah culture Material Type: printed text Authors: ณัฎฐชา เจียรนิลกุลชัย, Author ; จินดา นันทวงษ์, Author Publication Date: 2016 Article on page: p.32-43 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.1 (Jan-Mar) 2016/59 [03/29/2016] . - p.32-43Keywords: การพัฒนาแผลหนองเทียม.การส่งเสริมการฝึกทักษะ.การเก็บสิ่งคัดหลั่งจากแผลเพาะเชื้อ.นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2. Curricular : BNS Link for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25647 [article] การพัฒนาแผลหนองเทียมเพื่อส่งเสริมการฝึกทักษะการเก็บสิ่งคัดหลั่งจากแผลเพาะเชื้อ ในนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 = Development of an artificial pus wound medel to improve seconde year nursing student's skill in performing wound swah culture [printed text] / ณัฎฐชา เจียรนิลกุลชัย, Author ; จินดา นันทวงษ์, Author . - 2016 . - p.32-43.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in วารสารสภาการพยาบาล > Vol.31 No.1 (Jan-Mar) 2016/59 [03/29/2016] . - p.32-43Keywords: การพัฒนาแผลหนองเทียม.การส่งเสริมการฝึกทักษะ.การเก็บสิ่งคัดหลั่งจากแผลเพาะเชื้อ.นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2. Curricular : BNS Link for e-copy: http://www.tci-thaijo.org/index.php/TJONC Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=25647 การระบุและจัดลำดับความสำคัญของความต้องการ จำเป็น / พิศมัย อรทัย in รามาธิบดีพยาบาลสาร, Vol.23 No.2 (May-Aug) 2017/2560 ([10/18/2017])
[article]
Title : การระบุและจัดลำดับความสำคัญของความต้องการ จำเป็น : ด้านการจัดการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิตตามการรับรู้ของบัณฑิตพยาบาลรามาธิบดี Original title : Identifying and prioritizing educational needs for Bachelor of nursing program as perveived by Ramathobodi nurse graduates Material Type: printed text Authors: พิศมัย อรทัย, Author ; วรรณภา ประไพพาณิช, Author Publication Date: 2017 Article on page: p.242-256 Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)
in รามาธิบดีพยาบาลสาร > Vol.23 No.2 (May-Aug) 2017/2560 [10/18/2017] . - p.242-256Keywords: ความต้องการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต.ความจำเป็นด้านการจัดการ.การรับรู้ของบัณฑิตพยาบาลรามาธิบดี.หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต. Link for e-copy: http://med.mahidol.ac.th/nursing/journal/rama_journal_19 Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27390 [article] การระบุและจัดลำดับความสำคัญของความต้องการ จำเป็น = Identifying and prioritizing educational needs for Bachelor of nursing program as perveived by Ramathobodi nurse graduates : ด้านการจัดการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิตตามการรับรู้ของบัณฑิตพยาบาลรามาธิบดี [printed text] / พิศมัย อรทัย, Author ; วรรณภา ประไพพาณิช, Author . - 2017 . - p.242-256.
Languages : Thai (tha) Original Language : Thai (tha)การสอนแบบโครงการ / วัฒนา มัคคสมัน / กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - 2550
Title : การสอนแบบโครงการ Material Type: printed text Authors: วัฒนา มัคคสมัน Edition statement: พิมพ์ครั้งที่ 1. Publisher: กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Publication Date: 2550 Pagination: 239 หน้า Layout: ภาพประกอบ ISBN (or other code): 978-974-03-1982-5 Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การสอน
[LCSH]กิจกรรมการเรียนการสอนKeywords: กิจกรรมการเรียนการสอน Abstract: Curricular : GE/MBA/MESE/MSIT/MSM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=22559 การสอนแบบโครงการ [printed text] / วัฒนา มัคคสมัน . - พิมพ์ครั้งที่ 1. . - กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550 . - 239 หน้า : ภาพประกอบ.
ISBN : 978-974-03-1982-5
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การสอน
[LCSH]กิจกรรมการเรียนการสอนKeywords: กิจกรรมการเรียนการสอน Abstract: Curricular : GE/MBA/MESE/MSIT/MSM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=22559 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000362788 LB1027.43 ว398 2554 c.1 Book Main Library General Shelf Available 32002000362796 LB1027.43 ว398 2554 c.2 Book Main Library General Shelf Available ความสัมพันธ์ระหว่างการตั้งเป้าหมายการเรียน การเรียนอย่างมีความสุข / ภัทรียา มาลาทอง / กรุงเทพฯ : คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - 2545
Title : ความสัมพันธ์ระหว่างการตั้งเป้าหมายการเรียน การเรียนอย่างมีความสุข : กับทัศนคติต่อวิชาชีพพยาบาลของนัีกศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข Original title : Relationships between learning goal happiness in learning and attitude toward nursing professional of nurse students in nursing colleges under the jurisdiction of Ministry of Public Health Material Type: printed text Authors: ภัทรียา มาลาทอง, Author Publisher: กรุงเทพฯ : คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Publication Date: 2545 Pagination: ฎ, 105 แผ่น Layout: ตาราง Size: 30 ซม. ISBN (or other code): 978-974-172-874-3 Price: บริจาค. General note: วิทยานิพนธ์ [พย.ม. [การพยาบาลศึกษา]] - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2545 Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การเรียนรู้ -- นักศึกษาพยาบาล
[LCSH]นักศึกษาพยาบาล
[LCSH]นักศึกษาพยาบาล -- การดูแล
[LCSH]วิชาชีพพยาบาล
[LCSH]วิชาชีพพยาบาล -- ทัศนคติ
[LCSH]วิทยานิพนธ์Keywords: นักศึกษาพยาบาล.
วิทยาลัยพยาบาลClass number: WY100 ภ614 2545 Curricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23122 ความสัมพันธ์ระหว่างการตั้งเป้าหมายการเรียน การเรียนอย่างมีความสุข = Relationships between learning goal happiness in learning and attitude toward nursing professional of nurse students in nursing colleges under the jurisdiction of Ministry of Public Health : กับทัศนคติต่อวิชาชีพพยาบาลของนัีกศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข [printed text] / ภัทรียา มาลาทอง, Author . - กรุงเทพฯ : คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545 . - ฎ, 105 แผ่น : ตาราง ; 30 ซม.
ISSN : 978-974-172-874-3 : บริจาค.
วิทยานิพนธ์ [พย.ม. [การพยาบาลศึกษา]] - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2545
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การเรียนรู้ -- นักศึกษาพยาบาล
[LCSH]นักศึกษาพยาบาล
[LCSH]นักศึกษาพยาบาล -- การดูแล
[LCSH]วิชาชีพพยาบาล
[LCSH]วิชาชีพพยาบาล -- ทัศนคติ
[LCSH]วิทยานิพนธ์Keywords: นักศึกษาพยาบาล.
วิทยาลัยพยาบาลClass number: WY100 ภ614 2545 Curricular : BNS Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=23122 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000354504 WY100 ภ614 2545 Thesis Main Library Thaksin Corner Available