From this page you can:
Home |
Author details
Author ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา
Available item(s) by this author
Add the result to your basket Make a suggestion Refine your search Apply to external sourcesReprinted Collection. ผลการวิจัยเรื่อง กลยุทธ์การพัฒนาการจัดการโซ่อุปทานเพื่อการส่งออกของประเทศไทย / กัญญมน อินหว่าง
Collection Title: Reprinted Collection Title : ผลการวิจัยเรื่อง กลยุทธ์การพัฒนาการจัดการโซ่อุปทานเพื่อการส่งออกของประเทศไทย : กรณีศึกษากุ้งกุลาดำh(reprinted) Material Type: printed text Authors: กัญญมน อินหว่าง, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; วิไล ชินะผา, Associated Name Size: 14 หน้า. Price: 14 Baht Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การจัดการ
[LCSH]การส่งออก
[LCSH]กุ้งกุลาดำ -- อุปทานและอุปสงค์ -- ไทยCurricular : PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=10310 Reprinted Collection. ผลการวิจัยเรื่อง กลยุทธ์การพัฒนาการจัดการโซ่อุปทานเพื่อการส่งออกของประเทศไทย : กรณีศึกษากุ้งกุลาดำh(reprinted) [printed text] / กัญญมน อินหว่าง, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; วิไล ชินะผา, Associated Name . - [s.d.] . - ; 14 หน้า.
14 Baht
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การจัดการ
[LCSH]การส่งออก
[LCSH]กุ้งกุลาดำ -- อุปทานและอุปสงค์ -- ไทยCurricular : PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=10310 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000088805 REP183 2547 c.1 Reprinted Graduate Library Reprint Shelf Available 32002000088813 REP183 2547 c.2 Reprinted Main Library Reprint Shelf Available SIU THE-T. กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการจัดการและความสำเร็จของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดสระแก้ว / วรรณพร พุทธภูมิพิทักษ์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2020
Collection Title: SIU THE-T Title : กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการจัดการและความสำเร็จของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดสระแก้ว Original title : Strategy for Innovation Development, Management and Success of Small Business Entrepreneurs, Community Enterprise Groups in Sa Kaeo Province Material Type: printed text Authors: วรรณพร พุทธภูมิพิทักษ์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; เฟื่องฟ้า อัมพรสถิร, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2020 Pagination: x, 158 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 บาท General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2020-01
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2563Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ธุรกิจขนาดย่อม -- การบริหาร
[LCSH]นวัตกรรมทางธุรกิจ -- การจัดการKeywords: กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการจัดการ,
ความสำเร็จ,
ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนAbstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.) เพื่อศึกษาลักษณะของนวัตกรรมการจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสระแก้ว 2.) เพื่อศึกษานวัตกรรมการจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกับความสำเร็จของผู้ประกอบการ และ 3.) เพื่อหากลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการจัดการและความสำเร็จของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสระแก้ว โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research) ผสมผสานกับการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และการปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research: PAR)
ผลจากการศึกษา ตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1.) พบว่าลักษณะของนวัตกรรมนวัตกรรมการจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน อยู่ในลักษณะผู้ผลิตเชิงเดี่ยวแบบธุรกิจครอบครัว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีลักษณะการรวมกลุ่มของแต่ละหมู่บ้าน มีการประสานงานกับส่วนราชการจังหวัดสระแก้ว โดยมีผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทน ตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2.) พบว่าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มีความตื่นตัวในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันเชิงธุรกิจ มีการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการตลาดonline ประสบความสำเร็จในระดับปานกลาง ตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 3.) พบว่าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จะต้องมีการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันอยู่ตลอดเวลาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ปัจจัยที่สำคัญของความสำเร็จ
คือ การสร้างนวัตกรรมการจัดการที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้นำและผู้ประกอบการ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี แผนการตลาด การจำแนกกลุ่มลูกค้าตามความต้องการ ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ราคา และความสะดวกของลูกค้า และการสร้างแบรนด์ที่เกี่ยวโยงกับวัฒนธรรมชุมชนCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28047 SIU THE-T. กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการจัดการและความสำเร็จของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดสระแก้ว = Strategy for Innovation Development, Management and Success of Small Business Entrepreneurs, Community Enterprise Groups in Sa Kaeo Province [printed text] / วรรณพร พุทธภูมิพิทักษ์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; เฟื่องฟ้า อัมพรสถิร, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2020 . - x, 158 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00 บาท
SIU THE-T: SOM-DBA-2020-01
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2563
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ธุรกิจขนาดย่อม -- การบริหาร
[LCSH]นวัตกรรมทางธุรกิจ -- การจัดการKeywords: กลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการจัดการ,
ความสำเร็จ,
ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนAbstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.) เพื่อศึกษาลักษณะของนวัตกรรมการจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสระแก้ว 2.) เพื่อศึกษานวัตกรรมการจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกับความสำเร็จของผู้ประกอบการ และ 3.) เพื่อหากลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมการจัดการและความสำเร็จของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสระแก้ว โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research) ผสมผสานกับการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และการปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research: PAR)
ผลจากการศึกษา ตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1.) พบว่าลักษณะของนวัตกรรมนวัตกรรมการจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน อยู่ในลักษณะผู้ผลิตเชิงเดี่ยวแบบธุรกิจครอบครัว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีลักษณะการรวมกลุ่มของแต่ละหมู่บ้าน มีการประสานงานกับส่วนราชการจังหวัดสระแก้ว โดยมีผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทน ตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2.) พบว่าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มีความตื่นตัวในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันเชิงธุรกิจ มีการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการตลาดonline ประสบความสำเร็จในระดับปานกลาง ตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 3.) พบว่าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จะต้องมีการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันอยู่ตลอดเวลาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ปัจจัยที่สำคัญของความสำเร็จ
คือ การสร้างนวัตกรรมการจัดการที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้นำและผู้ประกอบการ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี แผนการตลาด การจำแนกกลุ่มลูกค้าตามความต้องการ ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ราคา และความสะดวกของลูกค้า และการสร้างแบรนด์ที่เกี่ยวโยงกับวัฒนธรรมชุมชนCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28047 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000607382 SIU THE-T: SOM-DBA-2020-01 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000607379 SIU THE-T: SOM-DBA-2020-01 c.1 SIU Thesis and Dissertation Main Library Thesis Corner Available SIU THE-T. กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดเคมีภัณฑ์การเกษตรกรณีศึกษาประเทศเวียดนาม / สุนัดดา บัวดิษฐ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2018
Collection Title: SIU THE-T Title : กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดเคมีภัณฑ์การเกษตรกรณีศึกษาประเทศเวียดนาม Material Type: printed text Authors: สุนัดดา บัวดิษฐ, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อุษณีษ์ เสวกวัชรี, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2018 Pagination: ix, 150 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2018-02
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2561Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กลยุทธ์การตลาด
[LCSH]เคมีภัณฑ์ -- การเกษตร -- เวียดนามKeywords: กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาด,
เคมีภัณฑ์การเกษตร,
ประเทศเวียดนามAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษากลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดเคมีภัณฑ์การเกษตรกรณีศึกษาประเทศเวียดนามใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็น ผู้ประกอบการ ผู้ค้า ผู้บริหาร ธุรกิจที่ทำการค้าเคมีภัณฑ์เกษตรจำนวน 400 คน ด้วยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และการวิเคราะห์ถดถอยพหุสัมพันธ์ (multiple regression analysis) ในการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรและยอมรับสมมุติฐานที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย มีอายุระหว่าง 36–40 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีสถานะเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว และปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปัจจุบัน จำนวน 1–5 ปี นอกจากนี้ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่าย มีแบรนด์เป็นของตนเอง 1- 5 แบรนด์ มีการจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์เกษตรไปประเทศอื่นนอกเหนือจากเวียดนาม และมีมูลค่าการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเวียดนามรวม 10–20 ล้านบาท ต่อปี นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังพบว่า ปัจจัยด้านราคามีความสำคัญสูงสุดในปัจจัยด้านส่วนประสมการตลาดต่อการดำเนินกลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาด ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการทำธุรกิจเคมีภัณฑ์เกษตรในประเทศเวียดนาม พบว่าประสบการณ์ต่างประเทศของผู้ตอบแบบสอบถามมีอิทธิพลสูงที่สุดและ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามใช้กลยุทธ์การร่วมทุนมากที่สุด ผลการวิจัยยังพบความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์ต่างประเทศ ความเสี่ยงของประเทศ ความได้เปรียบด้านการดำเนินการกับการใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจและพบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านราคากับการใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจ นอกจากนี้ผลการวิจัย ยังพบความสัมพันธ์ระหว่างการลงทุนตรง หรือการเข้าไปผลิตและการร่วมทุน กับการเลือกใช้กลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาดเคมีภัณฑ์เกษตรเวียดนามที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27827 SIU THE-T. กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดเคมีภัณฑ์การเกษตรกรณีศึกษาประเทศเวียดนาม [printed text] / สุนัดดา บัวดิษฐ, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อุษณีษ์ เสวกวัชรี, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2018 . - ix, 150 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00
SIU THE-T: SOM-DBA-2018-02
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2561
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กลยุทธ์การตลาด
[LCSH]เคมีภัณฑ์ -- การเกษตร -- เวียดนามKeywords: กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาด,
เคมีภัณฑ์การเกษตร,
ประเทศเวียดนามAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษากลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดเคมีภัณฑ์การเกษตรกรณีศึกษาประเทศเวียดนามใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็น ผู้ประกอบการ ผู้ค้า ผู้บริหาร ธุรกิจที่ทำการค้าเคมีภัณฑ์เกษตรจำนวน 400 คน ด้วยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และการวิเคราะห์ถดถอยพหุสัมพันธ์ (multiple regression analysis) ในการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรและยอมรับสมมุติฐานที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย มีอายุระหว่าง 36–40 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีสถานะเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว และปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปัจจุบัน จำนวน 1–5 ปี นอกจากนี้ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่าย มีแบรนด์เป็นของตนเอง 1- 5 แบรนด์ มีการจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์เกษตรไปประเทศอื่นนอกเหนือจากเวียดนาม และมีมูลค่าการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเวียดนามรวม 10–20 ล้านบาท ต่อปี นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังพบว่า ปัจจัยด้านราคามีความสำคัญสูงสุดในปัจจัยด้านส่วนประสมการตลาดต่อการดำเนินกลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาด ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการทำธุรกิจเคมีภัณฑ์เกษตรในประเทศเวียดนาม พบว่าประสบการณ์ต่างประเทศของผู้ตอบแบบสอบถามมีอิทธิพลสูงที่สุดและ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามใช้กลยุทธ์การร่วมทุนมากที่สุด ผลการวิจัยยังพบความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์ต่างประเทศ ความเสี่ยงของประเทศ ความได้เปรียบด้านการดำเนินการกับการใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจและพบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านราคากับการใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจ นอกจากนี้ผลการวิจัย ยังพบความสัมพันธ์ระหว่างการลงทุนตรง หรือการเข้าไปผลิตและการร่วมทุน กับการเลือกใช้กลยุทธ์ในการเข้าสู่ตลาดเคมีภัณฑ์เกษตรเวียดนามที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27827 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000597862 SIU THE-T: SOM-DBA-2018-02 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000597854 SIU THE-T: SOM-DBA-2018-02 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available SIU THE-T. การกำกับดูแลกิจการที่มีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย / เบญจพร โมกขะเวส
Collection Title: SIU THE-T Title : การกำกับดูแลกิจการที่มีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย Original title : Corporate Governance Affects on Financial Performance of the Listed Companies on the Stock Exchange of Thailand Material Type: printed text Authors: เบญจพร โมกขะเวส, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name Pagination: x, 271 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 บาท General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2018-09
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2561Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การกำกับดูแลกิจการ
[LCSH]ตลาดหลักทรัพย์ -- ไทยKeywords: การกำกับดูแลกิจการ,
ขนาดคณะกรรมการบริษัท,
ความเป็นอิสระของประธานกรรมการ,
ผลการดำเนินงานทางการเงิน,
ผู้บริหารระดับสูงไม่มีการควบรวมตำแหน่ง,
มูลค่าของกิจการ,
ระดับคะแนนการกำกับดูแลกิจการAbstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงผลของการกำกับดูแลกิจการที่มีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยวัดผลการดำเนินงาน 2 ด้าน คือ 1) ผลการดำเนินงานทางการเงินวัดค่าโดยใช้อัตราส่วนกำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมและอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และ2) ผลการดำเนินงานทางการตลาดวัดค่าโดยใช้มูลค่าของกิจการ (Tobin’s Q) กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 188 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีระดับคะแนนการกำกับดูแลกิจการในระดับดีเลิศ ระดับดีมาก ระดับดีและระดับที่ต่ำกว่าระดับดี ติดต่อกันระหว่างปี 2551-2560 ซึ่งเป็นการวิจัยแบบผสม (mixed methods research) นั่นคือ เป็นทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (quantitative research) โดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุเพื่อทดสอบสมมติฐาน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 และ 0.05 และขั้นต่อไปคือการวิจัยเชิงคุณภาพ (quality research) โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหาร (in-depth interview)
ผลการศึกษาพบว่าระดับคะแนนการกำกับดูแลกิจการ ความเป็นอิสระของประธานกรรมการ ขนาดคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารระดับสูงไม่มีการควบรวมตำแหน่งมีผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทซึ่งวัดค่าจากผลการดำเนินงานทางการเงินโดยใช้อัตราส่วนกำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมและอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ขณะที่สัดส่วนกรรมการอิสระไม่มีผลต่ออัตราส่วนกำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมและอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังพบว่าระดับคะแนนการกำกับดูแลกิจการ ความเป็นอิสระของประธานกรรมการ สัดส่วนกรรมการอิสระและผู้บริหารระดับสูงไม่มีการควบรวมตำแหน่งมีผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทซึ่งวัดค่าจากผลการดำเนินงานทางการตลาดโดยใช้มูลค่าของกิจการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ขณะที่ขนาดคณะกรรมการบริษัทไม่มีผลต่อมูลค่าของกิจการ ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาผลของการกำกับดูแลกิจการที่มีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ควรมุ่งเน้น คือ 1) ควรพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีควรให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลง 2) ควรมีการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนไทยมีนโยบายเกี่ยวกับโครงสร้างคณะกรรมการอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม 3) คณะกรรมการควรมีภาวะผู้นำ วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและหลากหลายมิติ คุณลักษณะ คุณสมบัติที่หลากหลาย การปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นอิสระจากฝ่ายบริหารจัดการ 4) ต้องมีความรับผิดชอบในการให้บริการลูกค้าในการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้อย่างครบถ้วน 5) คณะกรรมการควรมีการกำหนดนโยบายให้ความสำคัญกับการต่อต้านการคอรัปชั่นภายในองค์กรในทุกระดับชั้นของการดำเนินการ 6) คณะกรรมการควรกำหนดนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างชัดเจนและใช้เป็นแนวทางยึดถือปฏิบัติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถบรรลุตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ สร้างความมั่งคั่งและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27962 SIU THE-T. การกำกับดูแลกิจการที่มีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย = Corporate Governance Affects on Financial Performance of the Listed Companies on the Stock Exchange of Thailand [printed text] / เบญจพร โมกขะเวส, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name . - [s.d.] . - x, 271 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00 บาท
SIU THE-T: SOM-DBA-2018-09
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2561
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การกำกับดูแลกิจการ
[LCSH]ตลาดหลักทรัพย์ -- ไทยKeywords: การกำกับดูแลกิจการ,
ขนาดคณะกรรมการบริษัท,
ความเป็นอิสระของประธานกรรมการ,
ผลการดำเนินงานทางการเงิน,
ผู้บริหารระดับสูงไม่มีการควบรวมตำแหน่ง,
มูลค่าของกิจการ,
ระดับคะแนนการกำกับดูแลกิจการAbstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงผลของการกำกับดูแลกิจการที่มีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยวัดผลการดำเนินงาน 2 ด้าน คือ 1) ผลการดำเนินงานทางการเงินวัดค่าโดยใช้อัตราส่วนกำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมและอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และ2) ผลการดำเนินงานทางการตลาดวัดค่าโดยใช้มูลค่าของกิจการ (Tobin’s Q) กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 188 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีระดับคะแนนการกำกับดูแลกิจการในระดับดีเลิศ ระดับดีมาก ระดับดีและระดับที่ต่ำกว่าระดับดี ติดต่อกันระหว่างปี 2551-2560 ซึ่งเป็นการวิจัยแบบผสม (mixed methods research) นั่นคือ เป็นทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (quantitative research) โดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุเพื่อทดสอบสมมติฐาน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 และ 0.05 และขั้นต่อไปคือการวิจัยเชิงคุณภาพ (quality research) โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหาร (in-depth interview)
ผลการศึกษาพบว่าระดับคะแนนการกำกับดูแลกิจการ ความเป็นอิสระของประธานกรรมการ ขนาดคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารระดับสูงไม่มีการควบรวมตำแหน่งมีผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทซึ่งวัดค่าจากผลการดำเนินงานทางการเงินโดยใช้อัตราส่วนกำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมและอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ขณะที่สัดส่วนกรรมการอิสระไม่มีผลต่ออัตราส่วนกำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมและอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังพบว่าระดับคะแนนการกำกับดูแลกิจการ ความเป็นอิสระของประธานกรรมการ สัดส่วนกรรมการอิสระและผู้บริหารระดับสูงไม่มีการควบรวมตำแหน่งมีผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทซึ่งวัดค่าจากผลการดำเนินงานทางการตลาดโดยใช้มูลค่าของกิจการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ขณะที่ขนาดคณะกรรมการบริษัทไม่มีผลต่อมูลค่าของกิจการ ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาผลของการกำกับดูแลกิจการที่มีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ควรมุ่งเน้น คือ 1) ควรพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีควรให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลง 2) ควรมีการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนไทยมีนโยบายเกี่ยวกับโครงสร้างคณะกรรมการอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม 3) คณะกรรมการควรมีภาวะผู้นำ วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและหลากหลายมิติ คุณลักษณะ คุณสมบัติที่หลากหลาย การปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นอิสระจากฝ่ายบริหารจัดการ 4) ต้องมีความรับผิดชอบในการให้บริการลูกค้าในการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้อย่างครบถ้วน 5) คณะกรรมการควรมีการกำหนดนโยบายให้ความสำคัญกับการต่อต้านการคอรัปชั่นภายในองค์กรในทุกระดับชั้นของการดำเนินการ 6) คณะกรรมการควรกำหนดนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างชัดเจนและใช้เป็นแนวทางยึดถือปฏิบัติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถบรรลุตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ สร้างความมั่งคั่งและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27962 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000607986 SIU THE-T: SOM-DBA-2018-09 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000607983 SIU THE-T: SOM-DBA-2018-09 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available SIU THE-T. การจัดการเชิงกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ในการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน / กิจเสริม เวศย์ไกรศรี / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2018
Collection Title: SIU THE-T Title : การจัดการเชิงกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ในการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน Original title : Strategies Management for Building a Competitive Advantage in Thai Rice Export to International Asean Economic Communication (AEC) Material Type: printed text Authors: กิจเสริม เวศย์ไกรศรี, Author ; วรเดช จันทรศร, Associated Name ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2018 Pagination: ix, 185 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 บาท General note: SIU THE-T: IPAG-DPA-2018-04
Thesis. [DPA [รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต.ปร.ด]] มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2018Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การจัดการเชิงกลยุทธ์
[LCSH]ข้าว -- ไทย -- การส่งออกKeywords: การจัดการเชิงกลยุทธ์, การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน, การส่งออกข้าวไทย, ประชาคมอาเซียน Abstract: การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบถึงการจัดการเชิงกลยุทธ์ที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อทราบถึงปัจจัยที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทย เพื่อทราบถึงคุณลักษณะของผู้ประกอบการที่สร้างความได้เปรียบในการดำเนินการส่งออกข้าวไทย และเพื่อทราบแนวทางหรือข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเชิงกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทย โดยการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ สัมภาษณ์เชิงลึกเก็บข้อมูลจากผู้ประกอบการส่งออกข้าวไทย เป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 12 คน ผลการวิจัยได้ข้อค้นพบองค์ความรู้ คือ การที่ผู้ส่งออกจะได้เปรียบทางการแข่งขันต้องนำทฤษฎีความร่วมมือมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการส่งออก เนื่องจากต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้ส่งออกและภาครัฐ โดยที่รัฐบาลให้การสนับสนุนการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน และพัฒนาปรับปรุงนโยบายสาธารณะในการส่งออกข้าวไทย ตลอดจนนำแนวคิดเกี่ยวกับ SWOT (จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค) มาใช้ในการส่งออกข้าว และนำทฤษฎีระบบเปิดมาใช้ในการตลาดเพื่อนำทฤษฎีนี้มาใช้ในการจัดการองค์การให้มีความทันสมัย และต้องมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาระบบการส่งออกข้าวไทยให้มีประสิทธิภาพและความได้เปรียบทางการแข่งขันใน การส่งออกมากยิ่งๆ ขึ้น และจากการศึกษาพบประเด็นปัญหาที่ทำให้ความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียนลดลง ประกอบด้วยปัญหาต้นทุนการผลิตต่อไร่สูงแต่ผลผลิตต่อไร่ต่ำ ระบบชลประทานในพื้นที่เพาะปลูกมีจำกัด งบประมาณการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการผลิตข้าวน้อยเกินไป ราคาส่งออกข้าวไทยสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ขาดการประชาสัมพันธ์ในการสร้าง ตราสินค้าข้าวไทยในตลาดอาเซียนและตลาดโลก ระบบและต้นทุนขนส่งข้าวของไทยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศเวียดนาม และไม่มีนโยบายและ ยุทธศาสตร์ข้าวที่ชัดเจนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้นหากต้องการจะเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน สามารถดำเนินการได้โดยผู้ประกอบการส่งออกข้าวไทยต้องร่วมมือกับรัฐบาลไทยให้มากขึ้น และรัฐบาลไทยจะต้องให้การสนับสนุนการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน จะต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียนให้มีความชัดเจน Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27863 SIU THE-T. การจัดการเชิงกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ในการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน = Strategies Management for Building a Competitive Advantage in Thai Rice Export to International Asean Economic Communication (AEC) [printed text] / กิจเสริม เวศย์ไกรศรี, Author ; วรเดช จันทรศร, Associated Name ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2018 . - ix, 185 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00 บาท
SIU THE-T: IPAG-DPA-2018-04
Thesis. [DPA [รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต.ปร.ด]] มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2018
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การจัดการเชิงกลยุทธ์
[LCSH]ข้าว -- ไทย -- การส่งออกKeywords: การจัดการเชิงกลยุทธ์, การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน, การส่งออกข้าวไทย, ประชาคมอาเซียน Abstract: การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบถึงการจัดการเชิงกลยุทธ์ที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อทราบถึงปัจจัยที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทย เพื่อทราบถึงคุณลักษณะของผู้ประกอบการที่สร้างความได้เปรียบในการดำเนินการส่งออกข้าวไทย และเพื่อทราบแนวทางหรือข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเชิงกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทย โดยการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ สัมภาษณ์เชิงลึกเก็บข้อมูลจากผู้ประกอบการส่งออกข้าวไทย เป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 12 คน ผลการวิจัยได้ข้อค้นพบองค์ความรู้ คือ การที่ผู้ส่งออกจะได้เปรียบทางการแข่งขันต้องนำทฤษฎีความร่วมมือมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการส่งออก เนื่องจากต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้ส่งออกและภาครัฐ โดยที่รัฐบาลให้การสนับสนุนการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน และพัฒนาปรับปรุงนโยบายสาธารณะในการส่งออกข้าวไทย ตลอดจนนำแนวคิดเกี่ยวกับ SWOT (จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค) มาใช้ในการส่งออกข้าว และนำทฤษฎีระบบเปิดมาใช้ในการตลาดเพื่อนำทฤษฎีนี้มาใช้ในการจัดการองค์การให้มีความทันสมัย และต้องมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาระบบการส่งออกข้าวไทยให้มีประสิทธิภาพและความได้เปรียบทางการแข่งขันใน การส่งออกมากยิ่งๆ ขึ้น และจากการศึกษาพบประเด็นปัญหาที่ทำให้ความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียนลดลง ประกอบด้วยปัญหาต้นทุนการผลิตต่อไร่สูงแต่ผลผลิตต่อไร่ต่ำ ระบบชลประทานในพื้นที่เพาะปลูกมีจำกัด งบประมาณการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการผลิตข้าวน้อยเกินไป ราคาส่งออกข้าวไทยสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ขาดการประชาสัมพันธ์ในการสร้าง ตราสินค้าข้าวไทยในตลาดอาเซียนและตลาดโลก ระบบและต้นทุนขนส่งข้าวของไทยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศเวียดนาม และไม่มีนโยบายและ ยุทธศาสตร์ข้าวที่ชัดเจนภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้นหากต้องการจะเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน สามารถดำเนินการได้โดยผู้ประกอบการส่งออกข้าวไทยต้องร่วมมือกับรัฐบาลไทยให้มากขึ้น และรัฐบาลไทยจะต้องให้การสนับสนุนการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียน จะต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกข้าวไทยสู่ประชาคมอาเซียนให้มีความชัดเจน Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27863 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000597920 SIU THE-T: IPAG-DPA-2018-04 c.1 SIU Thesis and Dissertation Main Library Thesis Corner Available 32002000597912 SIU THE-T: IPAG-DPA-2018-04 c.2 SIU Thesis and Dissertation Main Library Thesis Corner Available SIU THE-T. การจัดวางทรัพยากรในองค์กรข่าวของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลในประเทศไทย ให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง / พลภฤต เรืองจรัส / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU THE-T Title : การจัดวางทรัพยากรในองค์กรข่าวของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลในประเทศไทย ให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง Original title : Managing an Enterprise Resource in News Department for Thailand Digital Television Broadcasting Business Under Changing of Technology Material Type: printed text Authors: พลภฤต เรืองจรัส, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: ix, 206 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2016-03
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2559Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]องค์กร -- การจัดการ
[LCSH]อุตสาหกรรมโทรทัศน์ -- ประเทศไทย
[LCSH]เทคโนโลยีการสื่อสารKeywords: ทรัพยากร,
สถานีโทรทัศน์ดิจิทัล,
องค์กรข่าวในสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล,
ผู้สื่อข่าวขององค์กรข่าวในสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลAbstract: การเปลี่ยนแปลงของระบบออกอากาศของโทรทัศน์ที่อุตสาหกรรมโทรทัศน์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยกำลังเปลี่ยนจากระบบแอนาล็อกเข้าสู่ระบบดิจิทัล ส่งผลให้กระบวนการผลิตรายการโทรทัศน์ทั้งหมดถูกเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัลหมดแล้ว ประกอบกับเทคโนโลยีการสื่อสารในปัจจุบันถูกพัฒนาไปสู่ยุค3Gและกำลังจะพัฒนาไปสู่เทคโนโลยี4จี และยุคข้อมูลข่าวสารสื่อใหม่ (New Media) ที่หลอมรวมเทคโนโลยี อย่างเช่น สื่อสังคมออนไลน์ ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมหลากหลายด้าน การจัดระบบองค์กรข่าว การบริหารจัดการ และการทำงานของผู้สื่อข่าวในสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลจึงถูกกดดันให้ต้องเปลี่ยนแปลงตาม
การวิจัยครั้งนี้มุ่งเน้นศึกษาโครงสร้างองค์กรข่าวในสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและคุณลักษณะผู้สื่อข่าวที่ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลต้องการในการทำงานให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ในการทำข่าว โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกบุคคลที่เป็นปัจจัยสำคัญประกอบด้วย 1.ผู้กำหนดนโยบายโทรคมนาคมและการสื่อสารระดับประเทศ 2.ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล 3.นักวิชาการนิเทศศาสตร์ 4.ผู้สื่อข่าวในองค์กรข่าวของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล และ 5.ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศในไทย การวิเคราะห์ข้อมูลมีทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บจากการสัมภาษณ์ และการวิเคราะห์ข้อมูลจากแนวคิดและทฤษฎี ทั้งทฤษฎีการหลอมรวมสื่อ (Media Convergence) และแนวคิดทฤษฎีการบริหารจัดการ 4M
Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26370 SIU THE-T. การจัดวางทรัพยากรในองค์กรข่าวของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลในประเทศไทย ให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง = Managing an Enterprise Resource in News Department for Thailand Digital Television Broadcasting Business Under Changing of Technology [printed text] / พลภฤต เรืองจรัส, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมชาย รัตนโกมุท, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - ix, 206 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU THE-T: SOM-DBA-2016-03
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2559
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]องค์กร -- การจัดการ
[LCSH]อุตสาหกรรมโทรทัศน์ -- ประเทศไทย
[LCSH]เทคโนโลยีการสื่อสารKeywords: ทรัพยากร,
สถานีโทรทัศน์ดิจิทัล,
องค์กรข่าวในสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล,
ผู้สื่อข่าวขององค์กรข่าวในสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลAbstract: การเปลี่ยนแปลงของระบบออกอากาศของโทรทัศน์ที่อุตสาหกรรมโทรทัศน์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยกำลังเปลี่ยนจากระบบแอนาล็อกเข้าสู่ระบบดิจิทัล ส่งผลให้กระบวนการผลิตรายการโทรทัศน์ทั้งหมดถูกเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัลหมดแล้ว ประกอบกับเทคโนโลยีการสื่อสารในปัจจุบันถูกพัฒนาไปสู่ยุค3Gและกำลังจะพัฒนาไปสู่เทคโนโลยี4จี และยุคข้อมูลข่าวสารสื่อใหม่ (New Media) ที่หลอมรวมเทคโนโลยี อย่างเช่น สื่อสังคมออนไลน์ ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมหลากหลายด้าน การจัดระบบองค์กรข่าว การบริหารจัดการ และการทำงานของผู้สื่อข่าวในสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลจึงถูกกดดันให้ต้องเปลี่ยนแปลงตาม
การวิจัยครั้งนี้มุ่งเน้นศึกษาโครงสร้างองค์กรข่าวในสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและคุณลักษณะผู้สื่อข่าวที่ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลต้องการในการทำงานให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ในการทำข่าว โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกบุคคลที่เป็นปัจจัยสำคัญประกอบด้วย 1.ผู้กำหนดนโยบายโทรคมนาคมและการสื่อสารระดับประเทศ 2.ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล 3.นักวิชาการนิเทศศาสตร์ 4.ผู้สื่อข่าวในองค์กรข่าวของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล และ 5.ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศในไทย การวิเคราะห์ข้อมูลมีทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บจากการสัมภาษณ์ และการวิเคราะห์ข้อมูลจากแนวคิดและทฤษฎี ทั้งทฤษฎีการหลอมรวมสื่อ (Media Convergence) และแนวคิดทฤษฎีการบริหารจัดการ 4M
Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26370 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000550887 SIU THE-T: SOM-DBA-2016-03 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000550879 SIU THE-T: SOM-DBA-2016-03 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available Readers who borrowed this document also borrowed:
Cross-cultural management Holden,, Nigel J. SIU IS-T. การดำเนินการโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล กรณีศึกษาอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี / ผุสดี บุญเซียม / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : การดำเนินการโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล กรณีศึกษาอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี Original title : Performance of Operating Projects following the Measures for Sub - District Well - Being Promotions of Meuang District, Surat Thani Province Material Type: printed text Authors: ผุสดี บุญเซียม, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: viii, 75 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-22
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]ชุมชน -- การศึกษาเฉพาะกรณี Keywords: ความเป็นอยู่,
มาตรการ,
ส่งเสริม,
ระดับตำบลAbstract: วัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ศึกษาผลการดำเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล กรณีศึกษาอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ เจ้าหน้าที่ระดับอำเภอ เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด และประชาขนทั่วไป จำนวน 405 คน ใช้แบบสอบถามแบบในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า การดำเนินโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล กรณีศึกษาของอำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานีในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ประสิทธิผลและผลลัพธ์โครงการมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ความพร้อมระหว่างดำเนินการ วัตถุประสงค์ดำเนินการโครงการ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ดำเนินการมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตามลำดับ สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานพบว่าควรชี้แจงผู้ปฏิบัติงานให้เห็นถึงวัตถุประสงค์และเข้าใจในเนื้อหาหลักของโครงการ ควรมีการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อมุ่งเป้าหมายในการแก้ปัญหา มีแนวทางแก้ไขปัญหา แนวทางป้องกันปัญหาที่เป็นรูปธรรม ปฏิบัติได้จริงอย่างมีระบบ การชี้แจงให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการ และมีการวางแผนกำหนดแนวทางการดำเนินงานและติดตามประเมินผลโครงการอย่างต่อเนื่องCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26828 SIU IS-T. การดำเนินการโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล กรณีศึกษาอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี = Performance of Operating Projects following the Measures for Sub - District Well - Being Promotions of Meuang District, Surat Thani Province [printed text] / ผุสดี บุญเซียม, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - viii, 75 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-22
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]ชุมชน -- การศึกษาเฉพาะกรณี Keywords: ความเป็นอยู่,
มาตรการ,
ส่งเสริม,
ระดับตำบลAbstract: วัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ศึกษาผลการดำเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล กรณีศึกษาอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ เจ้าหน้าที่ระดับอำเภอ เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด และประชาขนทั่วไป จำนวน 405 คน ใช้แบบสอบถามแบบในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า การดำเนินโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล กรณีศึกษาของอำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานีในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ประสิทธิผลและผลลัพธ์โครงการมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ความพร้อมระหว่างดำเนินการ วัตถุประสงค์ดำเนินการโครงการ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ดำเนินการมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตามลำดับ สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานพบว่าควรชี้แจงผู้ปฏิบัติงานให้เห็นถึงวัตถุประสงค์และเข้าใจในเนื้อหาหลักของโครงการ ควรมีการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อมุ่งเป้าหมายในการแก้ปัญหา มีแนวทางแก้ไขปัญหา แนวทางป้องกันปัญหาที่เป็นรูปธรรม ปฏิบัติได้จริงอย่างมีระบบ การชี้แจงให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการ และมีการวางแผนกำหนดแนวทางการดำเนินงานและติดตามประเมินผลโครงการอย่างต่อเนื่องCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26828 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593598 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-22 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available 32002000593606 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-22 c.2 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของบุคลากร สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร / จิตราภา สว่างเดือน / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2014
Collection Title: SIU IS-T Title : การดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของบุคลากร สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร Original title : Sufficiency Economy Philosophy Lifestyle for Personnel of the Social Development Department, Bangkok Metropolitan Administration Material Type: printed text Authors: จิตราภา สว่างเดือน, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2014 Pagination: viii, 55 หน้า Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-21
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]Sufficiency economy -- Thailand
[LCSH]บุคลากรสำนักพัฒนาสังคม -- การดำเนินชีวิต
[LCSH]เศรษฐกิจพอเพียง -- ปรัชญาAbstract: การศึกษาเรื่องการดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของบุคลากรสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้ชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของบุคลากรในสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร โดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคลากรของสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26103 SIU IS-T. การดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของบุคลากร สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร = Sufficiency Economy Philosophy Lifestyle for Personnel of the Social Development Department, Bangkok Metropolitan Administration [printed text] / จิตราภา สว่างเดือน, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อติพร เกิดเรือง, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014 . - viii, 55 หน้า : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-21
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]Sufficiency economy -- Thailand
[LCSH]บุคลากรสำนักพัฒนาสังคม -- การดำเนินชีวิต
[LCSH]เศรษฐกิจพอเพียง -- ปรัชญาAbstract: การศึกษาเรื่องการดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของบุคลากรสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้ชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของบุคลากรในสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร โดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคลากรของสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร Curricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26103 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000590222 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-21 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available 32002000590230 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-21 c.2 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU THE-T. การตลาดเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์และกระบวนทัศน์การพัฒนากลุ่มอาชีพอย่างมีส่วนร่วม: ชุมชนต้นแบบภายใต้พื้นที่โครงการหลวง / สุธีมนต์ ทรงศิริโรจน์ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2020
Collection Title: SIU THE-T Title : การตลาดเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์และกระบวนทัศน์การพัฒนากลุ่มอาชีพอย่างมีส่วนร่วม: ชุมชนต้นแบบภายใต้พื้นที่โครงการหลวง Original title : Creative Economic Marketing and Participatory Development Paradigm: The Model Community of the Royal Project Material Type: printed text Authors: สุธีมนต์ ทรงศิริโรจน์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; เฟื่องฟ้า อัมพรสถิร, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2020 Pagination: xix, 375 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 บาท General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2020-03
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2563Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การพัฒนาชุมชน
[LCSH]การพัฒนาอาชีพ
[LCSH]เศรษฐกิจสร้างสรรค์Keywords: การพัฒนากลุ่มอาชีพ,
เศรษฐกิจสร้างสรรค์,
ชุมชนแม่จันใต้Abstract: การศึกษาวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์และรูปแบบเส้นทางผู้บริโภคที่ส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพทางการตลาดที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการตามสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมทางการตลาดยุคปัจจุบัน รวมถึงศึกษาบริบทชุมชนบ้านแม่จันใต้ ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งกำหนดเป็นชุมชนต้นแบบภายใต้พื้นที่โครงการหลวง และตลอดจนศึกษาคุณลักษณะ กระบวนการและรูปแบบการพัฒนากลุ่มอาชีพ ความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพของเกษตรกรในชุมชนต้นแบบ จากกลุ่มตัวอย่างที่ 1 เกษตรกรชุมชนต้นแบบ จำนวน 36 ครัวเรือน และกลุ่มตัวอย่างที่ 2 คือ ประชากร เพศชายและเพศหญิง อายุ 20 ปีขึ้นไปและเป็นผู้ที่มีประสบการณ์บริโภคผลิตภัณฑ์โครงการหลวง จำนวน 300 คน วิธีการสุ่มตัวอย่างในกลุ่มตัวอย่าง ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่าง โดยไม่อาศัยความน่าจะเป็น (Non-Probability Sampling) แบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงแบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานการวิจัยโดยการทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-Way ANOVA และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ (Correlation Coefficient)
ผลการวิจัยพบว่าเกษตรกรในชุมชนต้นแบบมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มอาชีพอยู่ในระดับมากที่สุด มีความต้องการจัดตั้งกลุ่มอาชีพและมีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพ (POSDCoRB) อยู่ในระดับมากที่สุด และผลการวิจัยด้านการตลาดเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พบว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยเศรษฐกิจสร้างสรรค์อยู่ในระดับมากที่สุด มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการตลาด 4.0 เส้นทางผู้บริโภคอยู่ในระดับมาก ทั้งยังพบว่ารูปแบบของเส้นทางผู้บริโภคเป็น “รูปแบบทรัมเป็ต (Trumpet)” ผลการทดสอบสมมุติฐานการวิจัย พบว่า
1. ลักษะทางประชากรศาสตร์ที่แตกต่างกันทางด้านสถานะภาพและด้านประสบการณ์ทำงาน มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นต่อปัจจัยด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ที่แตกต่างกันในทุกปัจจัย อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05
2. ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) (1) ด้านความรู้และทรัพย์สินทางปัญญา ด้านขั้นตอนการพัฒนา มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการรับรู้ปัญหา (Aware) (2) ด้านการสร้างสรรค์งาน การสร้างสรรค์ และด้านเทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการประเมินทางเลือก (Appeal) (3) ด้านความรู้และทรัพย์สินทางปัญญา และ ด้านขั้นตอนการพัฒนา มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการค้นหาข้อมูล (Ask) และ (4) ด้านเทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการตัดสินใจซื้อ (Act)
การนำผลจากการศึกษาวิจัยเพื่อเป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนารูปแบบกลุ่มอาชีพและเครือข่ายชุมชนโดยรอบ และเครือข่ายภายนอก ควรการสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันและรูปแบบการพัฒนากลุ่มอาชีพที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมและใช้กระบวนการเรียนรู้เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนา ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างปัจจัยอันจะเอื้อและก่อให้เกิดคุณลักษณะของธุรกิจชุมชนที่มีกรอบชัดเจน และมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ ซึ่งควรเป็นไปในลักษณะของการจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับการจัดการความรู้ในชุมชน (Knowledge Management) ควบคู่ไปกับการจัดให้มีระบบพี่เลี้ยงในระหว่างกระบวนการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องให้แก่ชุมชนด้วยอีกประการCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28046 SIU THE-T. การตลาดเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์และกระบวนทัศน์การพัฒนากลุ่มอาชีพอย่างมีส่วนร่วม: ชุมชนต้นแบบภายใต้พื้นที่โครงการหลวง = Creative Economic Marketing and Participatory Development Paradigm: The Model Community of the Royal Project [printed text] / สุธีมนต์ ทรงศิริโรจน์, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; เฟื่องฟ้า อัมพรสถิร, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2020 . - xix, 375 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00 บาท
SIU THE-T: SOM-DBA-2020-03
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2563
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การพัฒนาชุมชน
[LCSH]การพัฒนาอาชีพ
[LCSH]เศรษฐกิจสร้างสรรค์Keywords: การพัฒนากลุ่มอาชีพ,
เศรษฐกิจสร้างสรรค์,
ชุมชนแม่จันใต้Abstract: การศึกษาวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์และรูปแบบเส้นทางผู้บริโภคที่ส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพทางการตลาดที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการตามสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมทางการตลาดยุคปัจจุบัน รวมถึงศึกษาบริบทชุมชนบ้านแม่จันใต้ ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งกำหนดเป็นชุมชนต้นแบบภายใต้พื้นที่โครงการหลวง และตลอดจนศึกษาคุณลักษณะ กระบวนการและรูปแบบการพัฒนากลุ่มอาชีพ ความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพของเกษตรกรในชุมชนต้นแบบ จากกลุ่มตัวอย่างที่ 1 เกษตรกรชุมชนต้นแบบ จำนวน 36 ครัวเรือน และกลุ่มตัวอย่างที่ 2 คือ ประชากร เพศชายและเพศหญิง อายุ 20 ปีขึ้นไปและเป็นผู้ที่มีประสบการณ์บริโภคผลิตภัณฑ์โครงการหลวง จำนวน 300 คน วิธีการสุ่มตัวอย่างในกลุ่มตัวอย่าง ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่าง โดยไม่อาศัยความน่าจะเป็น (Non-Probability Sampling) แบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงแบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานการวิจัยโดยการทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-Way ANOVA และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ (Correlation Coefficient)
ผลการวิจัยพบว่าเกษตรกรในชุมชนต้นแบบมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มอาชีพอยู่ในระดับมากที่สุด มีความต้องการจัดตั้งกลุ่มอาชีพและมีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพ (POSDCoRB) อยู่ในระดับมากที่สุด และผลการวิจัยด้านการตลาดเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พบว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยเศรษฐกิจสร้างสรรค์อยู่ในระดับมากที่สุด มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการตลาด 4.0 เส้นทางผู้บริโภคอยู่ในระดับมาก ทั้งยังพบว่ารูปแบบของเส้นทางผู้บริโภคเป็น “รูปแบบทรัมเป็ต (Trumpet)” ผลการทดสอบสมมุติฐานการวิจัย พบว่า
1. ลักษะทางประชากรศาสตร์ที่แตกต่างกันทางด้านสถานะภาพและด้านประสบการณ์ทำงาน มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นต่อปัจจัยด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ที่แตกต่างกันในทุกปัจจัย อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05
2. ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) (1) ด้านความรู้และทรัพย์สินทางปัญญา ด้านขั้นตอนการพัฒนา มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการรับรู้ปัญหา (Aware) (2) ด้านการสร้างสรรค์งาน การสร้างสรรค์ และด้านเทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการประเมินทางเลือก (Appeal) (3) ด้านความรู้และทรัพย์สินทางปัญญา และ ด้านขั้นตอนการพัฒนา มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการค้นหาข้อมูล (Ask) และ (4) ด้านเทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการตัดสินใจซื้อ (Act)
การนำผลจากการศึกษาวิจัยเพื่อเป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนารูปแบบกลุ่มอาชีพและเครือข่ายชุมชนโดยรอบ และเครือข่ายภายนอก ควรการสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันและรูปแบบการพัฒนากลุ่มอาชีพที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมและใช้กระบวนการเรียนรู้เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนา ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างปัจจัยอันจะเอื้อและก่อให้เกิดคุณลักษณะของธุรกิจชุมชนที่มีกรอบชัดเจน และมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ ซึ่งควรเป็นไปในลักษณะของการจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับการจัดการความรู้ในชุมชน (Knowledge Management) ควบคู่ไปกับการจัดให้มีระบบพี่เลี้ยงในระหว่างกระบวนการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องให้แก่ชุมชนด้วยอีกประการCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28046 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000607381 SIU THE-T: SOM-DBA-2020-03 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000607384 SIU THE-T: SOM-DBA-2020-03 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available SIU THE-T. การทดสอบปัจจัยที่นำไปสู่การยอมรับภาวะผู้นำของผู้บริหารสตรีในหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม / กนกพรรณ ญาณภิรัต / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2020
Collection Title: SIU THE-T Title : การทดสอบปัจจัยที่นำไปสู่การยอมรับภาวะผู้นำของผู้บริหารสตรีในหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม Original title : Factors Leading to the Acceptance of Female Executives’ Leadership in Brodcassting and Telecommunication Organization Material Type: printed text Authors: กนกพรรณ ญาณภิรัต, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2020 Pagination: xii, 88 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 บาท General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2020-02
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2563Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]นักบริหารสตรี -- วิจัย
[LCSH]ภาวะผู้นำของสตรี
[LCSH]วิทยุกระจายเสียง
[LCSH]โทรคมนาคมKeywords: ภาวะผู้นำของผู้บริหารสตรี,
หน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม,
บุคลิกภาพของผู้นำAbstract: การทดสอบปัจจัยที่นำไปสู่การยอมรับภาวะผู้นำของผู้บริหารสตรีในหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เป็นงานวิจัยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการยอมรับของผู้บริหารสตรี และศึกษาภาวะผู้นำประเภทต่างๆ ที่นำไปสู่การยอมรับของผู้ร่วมงาน ลูกน้องและหัวหน้างานในหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม โดยศึกษาจากประชากรกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม มีการใช้แบบสอบถามและการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในการเก็บข้อมูล และมีการวิเคราะห์ความแปรปรวน Analysis of Variance หรือ ANOVA และการวิเคราะห์การถดถอย (Regression Analysis) ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลจากการวิจัยพบว่า คุณลักษณะ และบุคลิกภาพของผู้นำของผู้บริหารสตรีมีความสัมพันธ์ทางบวกโดยตรงกับการบริหารจัดการ และคุณลักษณะผู้นำของผู้บริหารความสัมพันธ์ทางลบโดยตรงและทางบวกโดยอ้อมกับความสำเร็จในการบริหารจัดการของหน่วยงาน ส่วนการบริหารจัดการมีความสัมพันธ์ทางบวกโดยตรงกับความสำเร็จในการบริหารจัดการของหน่วยงาน สำหรับผู้นำทางวิชาชีพ (professional leadership) เป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดของคุณลักษณะผู้นำของผู้บริหารสตรีที่ทำการศึกษาในครั้งนี้ อีกทั้งยังพบว่าปัจจัยด้านบุคลิกภาพซึ่งในที่นี้รวมถึงการวางตัว การแต่งตัว กริยาท่าทางของผู้บริหารสตรี ส่งผลต่อการยอมรับและนำไปสู่ความสำเร็จของการทำงาน ตลอดทั้งการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสำหรับหน่วยงานกำกับ ดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมในประเทศไทย ซึ่งโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมเนื่องจากมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ อีกทั้งในแต่ละองค์ประกอบหรือปัจจัยแต่ละด้าน มีความเที่ยงตรง และเป็นที่ยอมรับได้ สำหรับปัจจัย เป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดของรูปแบบการบริหารจัดการของผู้บริหาร และเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดของความสำเร็จของการยอมรับผู้บริหารสตรีCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28048 SIU THE-T. การทดสอบปัจจัยที่นำไปสู่การยอมรับภาวะผู้นำของผู้บริหารสตรีในหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม = Factors Leading to the Acceptance of Female Executives’ Leadership in Brodcassting and Telecommunication Organization [printed text] / กนกพรรณ ญาณภิรัต, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2020 . - xii, 88 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00 บาท
SIU THE-T: SOM-DBA-2020-02
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2563
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]นักบริหารสตรี -- วิจัย
[LCSH]ภาวะผู้นำของสตรี
[LCSH]วิทยุกระจายเสียง
[LCSH]โทรคมนาคมKeywords: ภาวะผู้นำของผู้บริหารสตรี,
หน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม,
บุคลิกภาพของผู้นำAbstract: การทดสอบปัจจัยที่นำไปสู่การยอมรับภาวะผู้นำของผู้บริหารสตรีในหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เป็นงานวิจัยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการยอมรับของผู้บริหารสตรี และศึกษาภาวะผู้นำประเภทต่างๆ ที่นำไปสู่การยอมรับของผู้ร่วมงาน ลูกน้องและหัวหน้างานในหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม โดยศึกษาจากประชากรกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม มีการใช้แบบสอบถามและการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในการเก็บข้อมูล และมีการวิเคราะห์ความแปรปรวน Analysis of Variance หรือ ANOVA และการวิเคราะห์การถดถอย (Regression Analysis) ในการทดสอบสมมติฐาน
ผลจากการวิจัยพบว่า คุณลักษณะ และบุคลิกภาพของผู้นำของผู้บริหารสตรีมีความสัมพันธ์ทางบวกโดยตรงกับการบริหารจัดการ และคุณลักษณะผู้นำของผู้บริหารความสัมพันธ์ทางลบโดยตรงและทางบวกโดยอ้อมกับความสำเร็จในการบริหารจัดการของหน่วยงาน ส่วนการบริหารจัดการมีความสัมพันธ์ทางบวกโดยตรงกับความสำเร็จในการบริหารจัดการของหน่วยงาน สำหรับผู้นำทางวิชาชีพ (professional leadership) เป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดของคุณลักษณะผู้นำของผู้บริหารสตรีที่ทำการศึกษาในครั้งนี้ อีกทั้งยังพบว่าปัจจัยด้านบุคลิกภาพซึ่งในที่นี้รวมถึงการวางตัว การแต่งตัว กริยาท่าทางของผู้บริหารสตรี ส่งผลต่อการยอมรับและนำไปสู่ความสำเร็จของการทำงาน ตลอดทั้งการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสำหรับหน่วยงานกำกับ ดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมในประเทศไทย ซึ่งโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมเนื่องจากมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ อีกทั้งในแต่ละองค์ประกอบหรือปัจจัยแต่ละด้าน มีความเที่ยงตรง และเป็นที่ยอมรับได้ สำหรับปัจจัย เป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดของรูปแบบการบริหารจัดการของผู้บริหาร และเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดของความสำเร็จของการยอมรับผู้บริหารสตรีCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=28048 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000607380 SIU THE-T: SOM-DBA-2020-02 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000607377 SIU THE-T: SOM-DBA-2020-02 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การบริหารจัดการองค์การตามหลักคุณธรรมและจริยธรรม ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี / ณัฐนรี โกละกะ / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2014
Collection Title: SIU IS-T Title : การบริหารจัดการองค์การตามหลักคุณธรรมและจริยธรรม ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี Original title : Organizational Management based on Moral and Ethical Principles in Surat Thani Provincial Administrative Organization Material Type: printed text Authors: ณัฐนรี โกละกะ, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2014 Pagination: viii, 94 หน้า Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-26
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]Organizational -- Management
[LCSH]จริยธรรม
[LCSH]องค์การ -- การจัดการ
[LCSH]องค์การบริหารส่วนจังหวัด -- สุราษฎร์ธานีKeywords: คุณธรรมจริยธรรม
บริหารองค์การAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาระดับการบริหารจัดการองค์กรตามหลักคุณธรรมและจริยธรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี (2) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางพัฒนา
การบริหารจัดการองค์การตามหลักคุณธรรมและจริยธรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26107 SIU IS-T. การบริหารจัดการองค์การตามหลักคุณธรรมและจริยธรรม ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี = Organizational Management based on Moral and Ethical Principles in Surat Thani Provincial Administrative Organization [printed text] / ณัฐนรี โกละกะ, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; สมพร เพชรสงค์, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014 . - viii, 94 หน้า : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-26
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2014.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]Organizational -- Management
[LCSH]จริยธรรม
[LCSH]องค์การ -- การจัดการ
[LCSH]องค์การบริหารส่วนจังหวัด -- สุราษฎร์ธานีKeywords: คุณธรรมจริยธรรม
บริหารองค์การAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาระดับการบริหารจัดการองค์กรตามหลักคุณธรรมและจริยธรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี (2) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางพัฒนา
การบริหารจัดการองค์การตามหลักคุณธรรมและจริยธรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26107 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000590305 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-26 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000590271 SIU IS-T: IPAG-MPA-2014-26 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU THE-T. การบริหารเชิงกลยุทธ์ของบริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ค่ายยุโรปในประเทศไทย กรณีศึกษาบีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้ / สุขโชค ทองสุข-อุฬาร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2016
Collection Title: SIU THE-T Title : การบริหารเชิงกลยุทธ์ของบริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ค่ายยุโรปในประเทศไทย กรณีศึกษาบีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้ Original title : Strategic Management of European Auto Dealerships in Thailand: Case Study of BMW and Audi) Material Type: printed text Authors: สุขโชค ทองสุข-อุฬาร, Author ; วรเดช จันทรศร, Associated Name ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2016 Pagination: xi, 198 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2016-01
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2559Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การบริหารเชิงกลยุทธ์ -- การศึกษาเฉพาะกรณี
[LCSH]ผู้บริโภค -- พฤติกรรม
[LCSH]ยานยนต์ -- ไทยKeywords: การบริหารเชิงกลยุทธ์,
บริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์,
กลยุทธ์ระดับองค์กร,
กลยุทธ์ระดับธุรกิจ,
กลยุทธ์ระดับหน้าที่Abstract: การวิจัยเชิงคุณภาพครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1)ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ที่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ (2) เปรียบเทียบแนวทางการบริหารเชิงกลยุทธ์ของบริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้ (3) จัดอันดับ กลยุทธ์ที่ใช้มากที่สุดของบริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้ในประเทศไทย (4) หาเหตุผลการเลือกซื้อรถยนต์ของลูกค้าประชากรและ กลุ่มตัวอย่าง แบ่งเป็นสองกลุ่มคือ (1) ผู้บริหารที่ปฏิบัติงานในบริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้ที่มีประสบการณ์ในการงานอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไปทั้งหมด 16 บริษัทตัวแทนจำหน่าย (2) กลุ่มลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26372 SIU THE-T. การบริหารเชิงกลยุทธ์ของบริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ค่ายยุโรปในประเทศไทย กรณีศึกษาบีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้ = Strategic Management of European Auto Dealerships in Thailand: Case Study of BMW and Audi) [printed text] / สุขโชค ทองสุข-อุฬาร, Author ; วรเดช จันทรศร, Associated Name ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2016 . - xi, 198 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU THE-T: SOM-DBA-2016-01
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2559
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การบริหารเชิงกลยุทธ์ -- การศึกษาเฉพาะกรณี
[LCSH]ผู้บริโภค -- พฤติกรรม
[LCSH]ยานยนต์ -- ไทยKeywords: การบริหารเชิงกลยุทธ์,
บริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์,
กลยุทธ์ระดับองค์กร,
กลยุทธ์ระดับธุรกิจ,
กลยุทธ์ระดับหน้าที่Abstract: การวิจัยเชิงคุณภาพครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1)ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ที่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ (2) เปรียบเทียบแนวทางการบริหารเชิงกลยุทธ์ของบริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้ (3) จัดอันดับ กลยุทธ์ที่ใช้มากที่สุดของบริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้ในประเทศไทย (4) หาเหตุผลการเลือกซื้อรถยนต์ของลูกค้าประชากรและ กลุ่มตัวอย่าง แบ่งเป็นสองกลุ่มคือ (1) ผู้บริหารที่ปฏิบัติงานในบริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้ที่มีประสบการณ์ในการงานอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไปทั้งหมด 16 บริษัทตัวแทนจำหน่าย (2) กลุ่มลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูและเอาดี้คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26372 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000550853 SIU THE-T: SOM-DBA-2016-01 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000550861 SIU THE-T: SOM-DBA-2016-01 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available Readers who borrowed this document also borrowed:
Cross-cultural management Holden,, Nigel J. SIU THE-T. การปฏิรูปตำรวจ: การปรับปรุงองค์การและการบริหารจัดการ / สุวรรณ สุวรรณเวโช / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU THE-T Title : การปฏิรูปตำรวจ: การปรับปรุงองค์การและการบริหารจัดการ Original title : Police Reform: Organizational Improvement and Management Material Type: printed text Authors: สุวรรณ สุวรรณเวโช, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; วิไลพร เลาหโกศล, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vii, 213 Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: Non - Circulating
SIU THE-T: SOM-DBA-2017-06
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]การบริหารจัดการ
[LCSH]ตำรวจ -- การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร
[LCSH]โครงสร้างองค์กรKeywords: โครงสร้างองค์กร,
ส่วนประสมการตลาดบริการ,
สภาพแวดล้อมภายนอก,
สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน,
หลักธรรมาภิบาลAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบโครงสร้างองค์กร ส่วนประสมการ
ตลาดบริการ (7P’s) สภาพแวดล้อมภายนอกทั่วไป สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน และหลักธรรมาภิบาลที่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานการปฏิรูปตำรวจ 2) เพื่อสร้างแนวทางการปฏิรูปตำรวจด้วยการปรับปรุงและการบริหารจัดการองค์การตำรวจสมัยใหม่ ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ ผู้บังคับบัญชาตำรวจและผู้มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายตำรวจทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น เก็บรวบรวมข้อมูลจากการวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ การวิเคราะห์เชิงประวัติ การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ผลการวิจัย พบว่า 1) องค์ประกอบโครงสร้างองค์กร ได้แก่ การแบ่งงานกันทำตามความชำนาญ สายการบังคับบัญชา การกระจายอำนาจ และความเป็นทางการ 2) ส่วนประสมการตลาดบริการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ด้านบริการ ราคา สถานที่ การส่งเสริมทางการตลาด กระบวนการ บุคลากร และสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ 3) สภาพแวดล้อมภายนอกทั่วไป ได้แก่ ด้านการเมือง และด้านเทคโนโลยี 4) สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน ได้แก่ กลุ่มประชาชน กลุ่มผู้บังคับบัญชาตำรวจ และกลุ่มรัฐบาล
5) หลักธรรมาภิบาล มีความสำคัญต่อผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานการปฏิรูปตำรวจCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27264 SIU THE-T. การปฏิรูปตำรวจ: การปรับปรุงองค์การและการบริหารจัดการ = Police Reform: Organizational Improvement and Management [printed text] / สุวรรณ สุวรรณเวโช, Author ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name ; วิไลพร เลาหโกศล, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vii, 213 : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
Non - Circulating
SIU THE-T: SOM-DBA-2017-06
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]การบริหารจัดการ
[LCSH]ตำรวจ -- การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร
[LCSH]โครงสร้างองค์กรKeywords: โครงสร้างองค์กร,
ส่วนประสมการตลาดบริการ,
สภาพแวดล้อมภายนอก,
สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน,
หลักธรรมาภิบาลAbstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบโครงสร้างองค์กร ส่วนประสมการ
ตลาดบริการ (7P’s) สภาพแวดล้อมภายนอกทั่วไป สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน และหลักธรรมาภิบาลที่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานการปฏิรูปตำรวจ 2) เพื่อสร้างแนวทางการปฏิรูปตำรวจด้วยการปรับปรุงและการบริหารจัดการองค์การตำรวจสมัยใหม่ ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ ผู้บังคับบัญชาตำรวจและผู้มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายตำรวจทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น เก็บรวบรวมข้อมูลจากการวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ การวิเคราะห์เชิงประวัติ การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ผลการวิจัย พบว่า 1) องค์ประกอบโครงสร้างองค์กร ได้แก่ การแบ่งงานกันทำตามความชำนาญ สายการบังคับบัญชา การกระจายอำนาจ และความเป็นทางการ 2) ส่วนประสมการตลาดบริการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ด้านบริการ ราคา สถานที่ การส่งเสริมทางการตลาด กระบวนการ บุคลากร และสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ 3) สภาพแวดล้อมภายนอกทั่วไป ได้แก่ ด้านการเมือง และด้านเทคโนโลยี 4) สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับงาน ได้แก่ กลุ่มประชาชน กลุ่มผู้บังคับบัญชาตำรวจ และกลุ่มรัฐบาล
5) หลักธรรมาภิบาล มีความสำคัญต่อผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานการปฏิรูปตำรวจCurricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27264 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000594844 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-06 c.1 Thesis Graduate Library Thesis Corner Available 32002000594836 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-06 c.2 Thesis Graduate Library Thesis Corner Available SIU IS-T. การประเมินผลนโยบายรถยนต์คันแรก / อารีวรรณ สว่างธรรมขจร / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU IS-T Title : การประเมินผลนโยบายรถยนต์คันแรก Original title : The Evaluation of First Car Policy Material Type: printed text Authors: อารีวรรณ สว่างธรรมขจร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: vii, 95 น. Layout: ภาพประกอบ, ตาราง Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-10
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]นโยบายเศรษฐกิจ
[LCSH]รถยนต์ -- การซื้อKeywords: การประเมินผล,
นโยบาย,
รถยนต์คันแรกAbstract: การศึกษาเรื่องการประเมินผลนโยบายรถยนต์คันแรก มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาการนำนโยบายรถยนต์คันแรกมาปฏิบัติ และ ประเมินปัญหาในการนำนโยบายรถยนต์คันแรกไปปฏิบัติในเขตกรุงเทพมหานคร
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชนที่ได้ซื้อรถยนต์คันแรก และได้รับสิทธิ์คืนภาษีรถยนต์คันแรก ในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ซื้อรถยนต์คันแรก 4 คน ผู้ประกอบกิจการรถยนต์ 2 คน และ บุคคลที่เกี่ยวข้อง 2 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง (Structured Interview) ลักษณะคำถามแบบปลายเปิด ใช้วิธีสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulate)
ผลการศึกษา พบว่า ผู้ประกอบกิจการรถยนต์และบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นเพศหญิง 7 คน และเพศชาย 1 คน ผลกระทบหลักของนโยบายรถยนต์คันแรก คือ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นเป็นกระตุ้นรายได้ของภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้อย่างมาก ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในด้านการคมนาคม กระบวนการบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามนโยบายที่รัฐบาลตั้งไว้ขั้นตอนในการบริหารชัดเจน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างมีระบบ ส่วนผลกระทบของนโยบายรถยนต์คันแรก ได้แก่ ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเพิ่มมากขึ้น มีมลภาวะทางอากาศเพิ่มขึ้น เพิ่มภาระหนี้ให้กับประชาชน เพราะไม่ได้วางแผนในการใช้เงินอย่างเป็นระบบ ส่วนปัญหาในการนำนโยบายรถยนต์คันแรกไปปฏิบัติ พบปัญหาด้านการจราจรที่ติดขัด เนื่องจากระบบคมนาคมไม่พร้อมในการรองรับรถยนต์คันแรกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีที่จอดรถไม่เพียงพอ เนื่องจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลเป็นนโยบายเร่งด่วน ปัญหาด้านการบริหารจัดการนโยบาย พบว่า ผู้รับสิทธิ์ได้รับเงินคืนภาษีล่าช้า การคืนเงินให้ไม่ตรงตามกำหนดระยะเวลาที่แจ้งไว้ และหลักเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนดไม่ตรงกับกับเงื่อนไขบางประเภท และปัญหาด้านการสิ้นเปลืองพลังงาน เมื่อมีการใช้รถยนต์มากขึ้นก็จะทำให้สูญเสียพลังงานมากขึ้นเช่นกันCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26894 SIU IS-T. การประเมินผลนโยบายรถยนต์คันแรก = The Evaluation of First Car Policy [printed text] / อารีวรรณ สว่างธรรมขจร, Author ; ประยุทธ์ สวัสดิ์เรียวกุล, Associated Name ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - vii, 95 น. : ภาพประกอบ, ตาราง ; 30 ซม.
500.00
SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-10
[MPA.[รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017.
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]นโยบายเศรษฐกิจ
[LCSH]รถยนต์ -- การซื้อKeywords: การประเมินผล,
นโยบาย,
รถยนต์คันแรกAbstract: การศึกษาเรื่องการประเมินผลนโยบายรถยนต์คันแรก มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาการนำนโยบายรถยนต์คันแรกมาปฏิบัติ และ ประเมินปัญหาในการนำนโยบายรถยนต์คันแรกไปปฏิบัติในเขตกรุงเทพมหานคร
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชนที่ได้ซื้อรถยนต์คันแรก และได้รับสิทธิ์คืนภาษีรถยนต์คันแรก ในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ซื้อรถยนต์คันแรก 4 คน ผู้ประกอบกิจการรถยนต์ 2 คน และ บุคคลที่เกี่ยวข้อง 2 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง (Structured Interview) ลักษณะคำถามแบบปลายเปิด ใช้วิธีสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulate)
ผลการศึกษา พบว่า ผู้ประกอบกิจการรถยนต์และบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นเพศหญิง 7 คน และเพศชาย 1 คน ผลกระทบหลักของนโยบายรถยนต์คันแรก คือ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นเป็นกระตุ้นรายได้ของภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้อย่างมาก ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในด้านการคมนาคม กระบวนการบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามนโยบายที่รัฐบาลตั้งไว้ขั้นตอนในการบริหารชัดเจน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างมีระบบ ส่วนผลกระทบของนโยบายรถยนต์คันแรก ได้แก่ ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเพิ่มมากขึ้น มีมลภาวะทางอากาศเพิ่มขึ้น เพิ่มภาระหนี้ให้กับประชาชน เพราะไม่ได้วางแผนในการใช้เงินอย่างเป็นระบบ ส่วนปัญหาในการนำนโยบายรถยนต์คันแรกไปปฏิบัติ พบปัญหาด้านการจราจรที่ติดขัด เนื่องจากระบบคมนาคมไม่พร้อมในการรองรับรถยนต์คันแรกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีที่จอดรถไม่เพียงพอ เนื่องจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลเป็นนโยบายเร่งด่วน ปัญหาด้านการบริหารจัดการนโยบาย พบว่า ผู้รับสิทธิ์ได้รับเงินคืนภาษีล่าช้า การคืนเงินให้ไม่ตรงตามกำหนดระยะเวลาที่แจ้งไว้ และหลักเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนดไม่ตรงกับกับเงื่อนไขบางประเภท และปัญหาด้านการสิ้นเปลืองพลังงาน เมื่อมีการใช้รถยนต์มากขึ้นก็จะทำให้สูญเสียพลังงานมากขึ้นเช่นกันCurricular : MPA Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=26894 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000593739 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-10 c.2 SIU Independent Study Graduate Library Thesis Corner Available 32002000593747 SIU IS-T: IPAG-MPA-2017-10 c.1 SIU Independent Study Main Library Thesis Corner Available SIU THE-T. การพัฒนากีฬาเพื่อเป็นกลยุทธ์การตลาดของมหาวิทยาลัยเอกชน / มณฑิรา ชุนลิ้ม / กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร - 2017
Collection Title: SIU THE-T Title : การพัฒนากีฬาเพื่อเป็นกลยุทธ์การตลาดของมหาวิทยาลัยเอกชน Original title : Sport Development’s Contribution to the Marketing Strategy of Private University Material Type: printed text Authors: มณฑิรา ชุนลิ้ม, Author ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name Publisher: กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร Publication Date: 2017 Pagination: ix, 156 น. Layout: ตาราง, ภาพประกอบ Size: 30 ซม. Price: 500.00 General note: SIU THE-T: SOM-DBA-2017-11
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560Languages : Thai (tha) Descriptors: [LCSH]กลยุทธ์การตลาด
[LCSH]กีฬาKeywords: รูปแบบการพัฒนากีฬา,
กลยุทธ์การตลาด,
มหาวิทยาลัยเอกชน,
วิจัยเชิงคุณภาพAbstract: การศึกษาวิจัยเรื่องการพัฒนากีฬาเพื่อเป็นกลยุทธ์การตลาดของมหาวิทยาลัยเอกชนมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาลักษณะการใช้กีฬาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของมหาวิทยาลัยเอกชน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกและ/หรือสมัครเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเอกชน 3) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนากีฬาที่มีผลต่อการส่งเสริมกลยุทธ์ด้านการตลาดของมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้วิจัยทำการวิจัยในครั้งนี้
การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) โดยวิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ที่มีการกำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะ (Purposive Sampling) จากสถาบันอุดมศึกษาเอกชน จำนวน 8 แห่ง ที่มีระดับผลการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42 แบ่งเป็นกลุ่มสถาบันที่ได้รับเหรียญรางวัลมาก เหรียญรางวัลปานกลาง และเหรียญรางวัลน้อย โดยใช้รูปแบบการสัมภาษณ์คำถามแบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structured) กับผู้บริหารฝ่ายกิจการนักศึกษาหรือด้านสำนักกีฬา สถาบันละ 2 คน จำนวน 16 คน การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยทำการส่งหนังสือขออนุญาตเข้าสัมภาษณ์พร้อมส่งข้อคำถาม ประเด็นการสัมภาษณ์กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญและขออนุญาตทำการบันทึกเสียงร่วมกับการจดบันทึกในระหว่างการสัมภาษณ์ และถอดเทปการบันทึกการสัมภาษณ์โดยผู้วิจัยและนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ในแต่ละประเด็น ร่วมกับจากการศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี แล้วนำมาสรุปและอภิปรายผลของการวิจัยตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย
ผลการวิเคราะห์ของการวิจัย พบว่า สภาวะการแข่งขันทางการกีฬาของสถาบันอุดมศึกษานั้น มีลักษณะการแข่งขันกันในรูปแบบมหาวิทยาลัยของรัฐกับมหาวิทยาลัยเอกชนและในกลุ่มของมหาวิทยาลัยเอกชนด้วยกัน โดยมีระบบการให้ทุนการศึกษาความสามารถพิเศษด้านกีฬาเช่นเดียวกัน โดยมีลักษณะการแข่งขันมุ่งเน้นเหรียญรางวัลและระดับของจำนวนเหรียญรางวัลเพื่อเพิ่ม หรือรักษาระดับของมหาวิทยาลัย (Ranking) และประชาสัมพันธ์ชื่อมหาวิทยาลัย ซึ่งผลงานจากการพัฒนากีฬาของมหาวิทยาลัยมีผลต่อการตัดสินใจเลือกเข้าศึกษาต่อของนักเรียน รูปแบบการพัฒนากีฬาของมหาวิทยาลัยเอกชนสามารถแบ่งออกตาม 7 Ps คือ 1) ด้านผลิตภัณฑ์ (Product) ประเภทกีฬาที่ส่งเสริม หลักสูตรการเรียนการสอน หลักสูตรการฝึกอบรมระยะสั้น 2) ด้านผลตอบแทนที่ได้รับจากการเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัย (Price) ทุนการศึกษา ระบบจูงใจค่าตอบแทน สวัสดิการ 3) ด้านช่องทางการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการรับนักศึกษา (Place) สถานที่ตั้งมหาวิทยาลัย การจัดการเรียนการสอน เวลาการให้บริการของเจ้าหน้าที่ 4) ด้านการส่งเสริม (Promotions) โครงการ/กิจกรรมด้านกีฬา การให้บริการด้านอาคาร สนามกีฬาและสิ่งอำนวยความสะดวก 5) ด้านบุคลากร (People) มีคณาจารย์และผู้ฝึกสอนที่มีชื่อเสียง 6) ด้านกายภาพและการนำเสนอ (Physical Evidence/Environment and Presentation) สนามกีฬาและอาคารกีฬา สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา 7) ด้านกระบวนการ (Process) ระบบดูแลเรื่องการเรียน ระบบการฝึกซ้อม การประสานความร่วมมือกับสมาคมกีฬานอกจากนี้ ผลการวิจัยพบว่า มหาวิทยาลัยเอกชนใช้กีฬาเป็นกลยุทธ์การตลาดเพื่อการประชาสัมพันธ์ด้านการสร้างตราสินค้า (Brand Image) ของมหาวิทยาลัยและการให้ทุนการศึกษานักกีฬาที่มีชื่อเสียงเพื่อเป็นทูตตราสินค้า (Brand Ambassador) เพื่อเป็นแบบอย่างดึงดูดนักเรียนที่ชื่นชอบนักกีฬาเลือกเข้าศึกษาต่อได้Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27548 SIU THE-T. การพัฒนากีฬาเพื่อเป็นกลยุทธ์การตลาดของมหาวิทยาลัยเอกชน = Sport Development’s Contribution to the Marketing Strategy of Private University [printed text] / มณฑิรา ชุนลิ้ม, Author ; อุษณีย์ เสวกวัชรี, Associated Name ; ชาญชัย บัญชาพัฒนศักดา, Associated Name . - [S.l.] : กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2017 . - ix, 156 น. : ตาราง, ภาพประกอบ ; 30 ซม.
500.00
SIU THE-T: SOM-DBA-2017-11
Thesis. [DฺBA [บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต บธ.ด.]] -- มหาวิทยาลัยชินวัตร, 2560
Languages : Thai (tha)
Descriptors: [LCSH]กลยุทธ์การตลาด
[LCSH]กีฬาKeywords: รูปแบบการพัฒนากีฬา,
กลยุทธ์การตลาด,
มหาวิทยาลัยเอกชน,
วิจัยเชิงคุณภาพAbstract: การศึกษาวิจัยเรื่องการพัฒนากีฬาเพื่อเป็นกลยุทธ์การตลาดของมหาวิทยาลัยเอกชนมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาลักษณะการใช้กีฬาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของมหาวิทยาลัยเอกชน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกและ/หรือสมัครเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเอกชน 3) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนากีฬาที่มีผลต่อการส่งเสริมกลยุทธ์ด้านการตลาดของมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้วิจัยทำการวิจัยในครั้งนี้
การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) โดยวิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ที่มีการกำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะ (Purposive Sampling) จากสถาบันอุดมศึกษาเอกชน จำนวน 8 แห่ง ที่มีระดับผลการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42 แบ่งเป็นกลุ่มสถาบันที่ได้รับเหรียญรางวัลมาก เหรียญรางวัลปานกลาง และเหรียญรางวัลน้อย โดยใช้รูปแบบการสัมภาษณ์คำถามแบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structured) กับผู้บริหารฝ่ายกิจการนักศึกษาหรือด้านสำนักกีฬา สถาบันละ 2 คน จำนวน 16 คน การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยทำการส่งหนังสือขออนุญาตเข้าสัมภาษณ์พร้อมส่งข้อคำถาม ประเด็นการสัมภาษณ์กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญและขออนุญาตทำการบันทึกเสียงร่วมกับการจดบันทึกในระหว่างการสัมภาษณ์ และถอดเทปการบันทึกการสัมภาษณ์โดยผู้วิจัยและนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ในแต่ละประเด็น ร่วมกับจากการศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี แล้วนำมาสรุปและอภิปรายผลของการวิจัยตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย
ผลการวิเคราะห์ของการวิจัย พบว่า สภาวะการแข่งขันทางการกีฬาของสถาบันอุดมศึกษานั้น มีลักษณะการแข่งขันกันในรูปแบบมหาวิทยาลัยของรัฐกับมหาวิทยาลัยเอกชนและในกลุ่มของมหาวิทยาลัยเอกชนด้วยกัน โดยมีระบบการให้ทุนการศึกษาความสามารถพิเศษด้านกีฬาเช่นเดียวกัน โดยมีลักษณะการแข่งขันมุ่งเน้นเหรียญรางวัลและระดับของจำนวนเหรียญรางวัลเพื่อเพิ่ม หรือรักษาระดับของมหาวิทยาลัย (Ranking) และประชาสัมพันธ์ชื่อมหาวิทยาลัย ซึ่งผลงานจากการพัฒนากีฬาของมหาวิทยาลัยมีผลต่อการตัดสินใจเลือกเข้าศึกษาต่อของนักเรียน รูปแบบการพัฒนากีฬาของมหาวิทยาลัยเอกชนสามารถแบ่งออกตาม 7 Ps คือ 1) ด้านผลิตภัณฑ์ (Product) ประเภทกีฬาที่ส่งเสริม หลักสูตรการเรียนการสอน หลักสูตรการฝึกอบรมระยะสั้น 2) ด้านผลตอบแทนที่ได้รับจากการเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัย (Price) ทุนการศึกษา ระบบจูงใจค่าตอบแทน สวัสดิการ 3) ด้านช่องทางการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการรับนักศึกษา (Place) สถานที่ตั้งมหาวิทยาลัย การจัดการเรียนการสอน เวลาการให้บริการของเจ้าหน้าที่ 4) ด้านการส่งเสริม (Promotions) โครงการ/กิจกรรมด้านกีฬา การให้บริการด้านอาคาร สนามกีฬาและสิ่งอำนวยความสะดวก 5) ด้านบุคลากร (People) มีคณาจารย์และผู้ฝึกสอนที่มีชื่อเสียง 6) ด้านกายภาพและการนำเสนอ (Physical Evidence/Environment and Presentation) สนามกีฬาและอาคารกีฬา สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา 7) ด้านกระบวนการ (Process) ระบบดูแลเรื่องการเรียน ระบบการฝึกซ้อม การประสานความร่วมมือกับสมาคมกีฬานอกจากนี้ ผลการวิจัยพบว่า มหาวิทยาลัยเอกชนใช้กีฬาเป็นกลยุทธ์การตลาดเพื่อการประชาสัมพันธ์ด้านการสร้างตราสินค้า (Brand Image) ของมหาวิทยาลัยและการให้ทุนการศึกษานักกีฬาที่มีชื่อเสียงเพื่อเป็นทูตตราสินค้า (Brand Ambassador) เพื่อเป็นแบบอย่างดึงดูดนักเรียนที่ชื่นชอบนักกีฬาเลือกเข้าศึกษาต่อได้Curricular : BBA/MBA/PhDM Record link: http://libsearch.siu.ac.th/siu/opac_css/index.php?lvl=notice_display&id=27548 Hold
Place a hold on this item
Copies
Barcode Call number Media type Location Section Status 32002000596708 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-11 c.1 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available 32002000596690 SIU THE-T: SOM-DBA-2017-11 c.2 SIU Thesis and Dissertation Graduate Library Thesis Corner Available